เจอบทนางร้ายนอกจอเข้าแบบนี้ นฤเบศเลยไปไม่เป็น ติดอ่างขึ้นซะงั้น สุรีกานต์น้ำตาไหลเจ็บใจที่ถูกกันไม่ให้ไปทำงาน พอเห็นน้ำตาเท่านั้น นฤเบศก็ใจอ่อนยวบ ปลอบว่าอย่าร้องไห้เลย เรื่องแค่นี้เอง แต่นางร้ายแผดเสียงร้องไห้ดังกว่าเดิมจนเขาทำอะไรไม่ถูก เลยโผล่ออกไปว่า
“หยุดร้องได้แล้ว ที่ผมไม่ให้คุณไปเพราะมันอันตราย ผมเป็นห่วงคุณ”
ทั้งน้ำเสียงและคำพูดนี้ทำให้สุรีกานต์น้ำตาหยุดไหลทันทีราวกับปิดก๊อก ยืนอึ้ง นฤเบศเองก็ตกใจที่เผลอพูดออกไปอย่างนั้น พอตั้งหลักได้ก็ขอตัวไปอาบน้ำและบอกให้เธอไปนอนเสีย
เพราะเห็นนฤเบศมีบาดแผล สุรีกานต์จึงให้เขา
มานอนเตียง ตนจะไปนอนฟูกที่พื้นเอง เขาบอกให้นอนเสียด้วยกันบนนี้แหละ ทีวันก่อนเธอยังแอบขึ้นมานอนได้เลย ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกัน
ตอนนอนก็แบ่งเขตกันอย่างดี แต่พอตื่นขึ้นตอนเช้าปรากฏว่าล้ำเขตจนนอนก่ายกัน เลยโทษกันให้วุ่นว่าใครก่ายใคร ใครซุก สุดท้ายก็เจ๊ากันไปได้อีกตามเคย เพราะสุรีกานต์หาว่าคางเขาทิ่มหัวตนและอกเขาก็อยู่ตรงหน้าตน ถูกนฤเบศเอาคืนว่าหน้าเธอมาซุกในอกตนต่างหาก
สุรีกานต์ทั้งเขินทั้งเคือง บอกว่าจะกลับคอนโดฯแล้ว ขืนอยู่ต่อเขาได้ฉวยโอกาสกับตนอีกแน่
แต่ยังไม่ทันกลับ เธอเห็นนฤเบศขลุกอยู่ที่สวนก็แกล้งฉีดน้ำใส่ ไล่แย่งสายยางกันจนน้ำฉีดไปโดนป้ามลที่กลับมาพอดี ป้ามลยืนมึนมองสุรีกานต์งงๆ จนเมื่อนฤเบศ แนะนำให้รู้จัก ป้ามลเลยแกล้งถามว่าเจอแพรไหมบ้างไหม
“ครับ...น้องไหมมาหาที่นี่เมื่อวันก่อน”
“โธ่...เสียดาย ป้าอยากเจอคุณไหม ไม่ได้เจอตั้งหลายปีแล้ว คุณไหมตัวโตขึ้นบ้างหรือเปล่าคะ ตอนเด็กตัวนิดเดียววิ่งตามคุณหนูตลอดเลย”
พอสุรีกานต์รู้ว่านฤเบศรู้จักกับแพรไหมตั้งแต่เด็กและสนิทกันมาก ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นในใจพิกล เลยเกทับทำเป็นลาป้ามลและนฤเบศบอกว่ารบกวนมา 3 วัน 3 คืนแล้ว ป้ามลยิ่งตกใจ ตำหนินฤเบศว่า
“คุณหนูทำไมทำแบบนี้คะ ถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่ เธอก็เป็นผู้หญิง มานอนในบ้านผู้ชายสองต่อสองแบบนี้ คนรู้เข้าจะเสียหาย ยิ่งเธอเป็นดาราดังด้วย แล้วคุณหนูไปรู้จักเธอได้ยังไงคะ” นฤเบศบอกว่ารู้จักผ่านงาน “สนิทกันถึงขั้นพักค้างคืนด้วยกันได้เลยหรือคะ”
“ก็...ก็ประมาณนั่นแหละครับ” นฤเบศไม่เต็มเสียง ยิ้มเจื่อนๆ
ก่อนกลับไปอยู่คอนโดฯของตัวเอง สุรีกานต์แอบหยิบกระถางต้น ‘แอบรัก’ ไปด้วย บรรจงวางที่ระเบียง บอกต้นแอบรักว่า “รับรองฉันเลี้ยงดีไม่แพ้ตานั่นหรอก” ไม่ทันไรก็ได้รับโทรศัพท์จากวุ้นกรอบ เธอรับสายปากคุยโทรศัพท์แต่ตามองต้น ‘แอบรัก’ แววตาอ่อนโยน
“มีอะไรวุ้น...คิวละครวันนี้? เออ...ฉันไม่ลืมหรอกน่า เดี๋ยวรีบไป แค่นี้นะ” ตัดสายแล้วยิ้มให้กับต้นแอบรักอีกทีก่อนเดินเข้าห้อง
ooooooo
ที่เซฟเฮาส์ทีมเดอะซัน สมาชิกในทีมแต่ละคนมีรอยฟกช้ำดำเขียวจากที่ไปบุกรังริชาร์ดมา นฤเบศเองแม้ได้รับบาดเจ็บแต่วันนี้ยังมาปรึกษาหารือกับทีมงาน
“เรารอเวลาไม่ได้แล้ว พลูโตมันต้องเริ่มสงสัยแล้วว่าใครตามมันอยู่ และเพื่อไม่ให้เราตามจับมันได้ มันต้องรีบปล่อยยาเร็วขึ้นแน่” นฤเบศคาดการณ์ฝ่ายตรงข้าม
อัศวินคาดว่าริชาร์ดยังไม่น่าจะรู้ว่าพวกเราเป็นใคร นฤเบศย้ำว่ายังไงเราก็อย่าประมาท เราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันย้ายของไปไว้ที่ไหนก่อนที่มันจะส่งยานรกไปให้ เอเย่นต์รายอื่น ปรีติถามว่าแล้วเราจะใช้แผนไหนต่อ?
“ผมจะให้สายลับเนปจูนไปประกบมันแทน” นฤเบศสีหน้าแน่วแน่ ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ไวเท่าความคิด นฤเบศโทร.หาสุรีกานต์ทันที เป็นเวลาที่เธอกำลังไปช็อปปิ้งกับกวินในห้าง เธอรับสายอย่างหงุดหงิด พอนฤเบศสั่งให้ไปหาเดี๋ยวนี้เลย เธอยิ่งหัวเสียตัดบททันที
“ไม่ได้ ฉันไม่ว่าง...ก็ทำธุระอยู่...ธุระสำคัญ...” พูดได้แค่นั้นปลายสายก็ตัดไปแล้ว แม้จะหงุดหงิดหัวเสีย แต่เธอก็ต้องไป กลับมาบอกกวินว่า “โซ่ขอโทษนะคะ โซ่มีธุระด่วนต้องรีบไปตอนนี้เลย ไว้ครั้งหน้าเรามากันใหม่ โซ่ไม่เบี้ยวแน่ๆ”
กวินตอบอย่างใจเย็นอารมณ์ดีว่าไม่เป็นไร
ตนจะรอครั้งหน้า และครั้งนี้ตนก็มีความสุขมาก ส่วนสุรีกานต์ก็ขอบคุณเขาสำหรับรองเท้าคู่ใหม่ที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญ เพราะรองเท้าส้นสูงของเธอส้นหักกลางห้าง
ooooooo
การนัดพบกันแต่ละครั้ง นฤเบศช่างสรรหาทางวิบากให้เธอดั้นด้นไป ครั้งนี้ก็นัดไปพบกันที่สนามฟุตบอลที่เขากำลังเตะบอลอยู่กับเพื่อนร่วมทีม พอเห็นเธอเขาจึงเดินออกมาหา
มาถึงเห็นสุรีกานต์ทำหน้าบอกบุญไม่รับถามว่าเป็นอะไร เธอบ่นว่าโทร.เรียกขัดจังหวะเดทในฝันของตนแถมยังให้มาตั้งไกล นฤเบศอ้างว่าเธอไม่ได้บอกว่ากำลังออกเดท บอกแต่ว่าทำธุระอยู่แถมพูดอึกๆอักๆ ตนก็นึกว่าเธอคิดจะเลี่ยงงาน
“ฉันดูเป็นคนแบบนั้นรึไง! ถึงฉันจะดูไม่เต็มใจ ไม่อยากทำ แต่ทุกครั้งที่คุณนัด ทุกครั้งที่ฉันทำงานให้คุณ ฉันเต็มที่เสมอ”
“โอเคๆขอโทษ เลิกโมโหเถอะ ไปนั่งคุยกันดีๆทางนู้นดีกว่า” ว่าแล้วจับแขนลากไป เธอเห็นเขายอมอ่อนข้อให้เลยปล่อยให้เขาลากไป แต่พอไปไม่เท่าไหร่เธอก็ร้องว่าเจ็บเท้าเพราะรองเท้ากัด ชายหนุ่มมองอย่างห่วงใย บอกให้รอตรงนี้แล้วผละไป ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมรองเท้าแตะหนีบ 1 คู่กับน้ำ 1 ขวด
มาถึงก็ส่งน้ำให้เธอแล้วย่อตัวยองๆ ถอดรองเท้าให้พร้อมกับเอารองเท้าแตะหนีบให้เธอใส่แทน หยิบรองเท้าเจ้าปัญหานั้นใส่ถุงกรอบแกรบที่ใส่รองเท้าแตะมา สุรีกานต์มองแล้วงึมงำอย่างเสียความรู้สึก
“สามหมื่นของคุณกวิน หมดกัน”
แก้ปัญหาให้เธอแล้ว นฤเบศเริ่มคุยเรื่องงาน บอกว่า
ที่เรียกมาเพราะจะคุยเรื่องภารกิจต่อไป ส่วนแผนงานเธอต้องกำหนดเอง ชี้แจงว่า
“คุณต้องโทร.ไปหาพลูโต นัดไปไหนกันก็ได้ แล้วพยายามล้วงข้อมูลให้ได้มากที่สุด ผมอยากรู้ว่าพลูโตมันย้ายของไปเก็บไว้ที่ไหน”
สุรีกานต์งอแงว่าตนไม่อยากเป็นฝ่ายโทร.ไปเดี๋ยวพลูโตจะคิดว่าตนให้ท่าเพราะมันยิ่งหื่นๆอยู่
“คุณต้องให้ท่ามันจริงๆ นี่...น่า...คุณดารา นี่มันเป็นงานนะ คุณอย่ามีปัญหานักเลย ยังไงผมกับทีมก็คอยระวังความปลอดภัยให้คุณอยู่แล้ว คุณไม่ต้องห่วง ผมรับรองว่าคุณจะปลอดภัยแน่ๆ ถ้าคุณไม่นอกแผนเองเสียก่อน” เขาทั้งย้ำและเตือน
แต่พอสุรีกานต์หยิบโทรศัพท์จะโทร.ก็มีสายเข้าพอดี เธอตาโตตื่นเต้นเพราะเป็นสายจากพลูโต เธอทำดี๊ด๊ารับสาย ปรากฏว่าริชาร์ดนัดพรุ่งนี้เจอกัน เธอตอบรับทันที นฤเบศถามว่าพลูโตนัดที่ไหน เธอทำหูทวนลม เลยถูกดุเสียงดัง
“พลูโตมันนัดคุณที่ไหน!”
“ยืนอยู่ใกล้แค่นี้ เสียงดังทำไมเนี่ย เออๆ บอกก็ได้ คุณกับทีมไปเตรียมแผนคุ้มกันฉันได้เลย พรุ่งนี้ฉันจะไปเดทกับพลูโตทั้งวัน!” พูดแล้วทำแอ็กใส่ ฝ่ายนฤเบศฟังแล้วเป็นกังวลขึ้นทันที...ไปทั้งวันโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนบ้าง?!
ooooooo
ริชาร์ดขับรถเปิดประทุนมารับสุรีกานต์ที่คอนโดฯ พร้อมดอกกุหลาบสีไวน์แดงช่อใหญ่ เธอรับช่อกุหลาบ ทำแอ๊บเขินอาย ทันทีที่รถของริชาร์ดขับออกไป บรรดาทีมเดอะซันที่ซุ่มอยู่ก็ตามทันที
หลังจากขับรถกินลมชมวิวโอบซบกันมาตลอดทางแล้ว ทั้งสองพากันเข้าภัตตาคารหรู ริชาร์ดเหมาทั้งชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว จากนั้นไปร้านเพชรซื้อสร้อยเพชรสวมให้ที่คอขาวผ่องมองหื่น เจ้าหล่อนก็ยิ้มยั่วยวนแต่เป้าหมายเพื่อกวนประสาทนฤเบศที่แอบดูอยู่มากกว่า
ต่อจากนั้นพาไปที่สระว่ายน้ำ คราวนี้โชว์หวิวทั้งริมสระและในสระ จนนฤเบศจ้องตาแทบลุกเป็นไฟ
แต่ที่สระว่ายน้ำนี่เอง สุรีกานต์ทักเรื่องแผลที่ถูกนฤเบศปามีดใส่ ริชาร์ดแสดงความอาฆาตแค้นจนสุรีกานต์ หวั่นใจ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังเห็นรอยสักเป็นประโยคยาวที่ท้ายทอย แกล้งชมว่าเท่ยัง สักว่าอะไรหรือ
“Veni Vidi Vici ภาษาละติน แปลว่า ‘ข้ามา ข้าเห็น ข้าชนะ’ ผมชอบวลีนี้ วลีอมตะของจูเลียส ซีซ่าร์ ตอนเขาประกาศชัยชนะในสงคราม เขาส่งวลีนี้ไปที่กรุงโรม”
“ท่าทางคุณจะชอบเขามากนะคะ”
“เขาเป็นคนธรรมดาที่ไต่เต้าจนกลายเป็นจอมทัพ แล้วก็สถาปนาตัวเองขึ้นปกครองกรุงโรม ชีวิตเขาคล้ายชีวิตผม เพียงแต่ผมจะไม่มีวันยอมให้เพื่อนมาหักหลังจนตัวเองต้องตายเหมือนเขา...ใคร ที่กล้าหักหลังคนอย่างริชาร์ด มันต้องตายสถานเดียว!”
คราวนี้สุรีกานต์เสียวสันหลังวูบ ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ กลบเกลื่อน แต่ยังมุ่งมั่นที่จะหาทางล้วงความลับตามหน้าที่ต่อไป เพราะจนบัดนี้ยังไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย
เธอใช้ความคิดหนัก หาทางเลียบเคียงถามงานของเขา ริชาร์ดบอกว่ากำลังจะจัดงานแถลงข่าวการเซ็นสัญญาร่วมธุรกิจกับผู้ประกอบการ สนามกอล์ฟที่กระบี่อาทิตย์หน้า เลยยุ่งๆเรื่องเตรียมงานนิดหน่อย
ระหว่างนั้นก็ชวนดื่มกัน ริชาร์ดเห็นสุรีกานต์เครียดขึ้นถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าเธอบอกว่ารู้สึกมึนๆ เพราะดื่มไปหลายแก้วแล้ว
“งั้นไปพักที่ห้องผมข้างบนก่อนไหมครับ พออาการดีขึ้นเมื่อไหร่ ผมจะพาคุณไปส่งที่บ้าน ตกลงไหม”
สุรีกานต์อึกอักรู้ตัวว่าตกอยู่ในภาวะเสี่ยงแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรเลยตัดสินใจรับคำ
“ยัยดาราบ้านั่นนอกแผนอีกจนได้!” นฤเบศฉุนขาดเมื่อเห็นริชาร์ดประคองสุรีกานต์ขึ้นข้างบน
ooooooo
เมื่อริชาร์ดพาเธอขึ้นห้องนอนก็พาตรงไปที่เตียงและเริ่มนัวเนียทันที สุรีกานต์พยายามปกป้องตัวเองอย่างนิ่มนวล
แต่เมื่อถึงจุดเสี่ยง เธอแกล้งอาเจียนใส่จนริชาร์ดเลอะ หมดอารมณ์พิศวาส ต้องรีบเดินไปล้างตัวในห้องน้ำอย่างหัวเสีย
เป็นโอกาสทองของสุรีกานต์ เธอลุกขึ้นเอามือถือถ่ายรูปในทุกห้องทุกมุม ค้นข้าวของที่สงสัย พลันก็ได้ยินเสียงนฤเบศตำหนิผ่านหูฟังสายลับว่าเธอนอกแผน สั่งให้รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลย
........................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย
0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.