ผู้การเสริมพงษ์ชูแฟ้มในมือ และบอกว่าตนต้องการกระจายงานให้คนอื่นไปทำ หวังว่าเขาคงเข้าใจ จ่านิดรับคำไม่กล้าหือ ก้มหน้าเดินออกไป แต่รู้สึกหวั่นใจอย่างประหลาด เขานั่งครุ่นคิด นึกได้ว่าตนได้ก๊อบปี้แฟ้มคดีเอาไว้ในคอม จึงเริ่มค้นหาสิ่งที่ตนสงสัย...
ในขณะที่ไศลาฟื้นขึ้นมาเห็นนาถสุดากำลังป้อนข้าวศพเทพ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเพราะร่างเทพเริ่มเน่าเฟะ...พอนาถสุดาเห็นไศลาฟื้นก็คาดคั้นจะเอาตำราหน้าสุดท้ายจากเธอ นาถสุดาจับไศลามากดหน้าชิดกับซากศพ บังคับให้ขอโทษที่ฆ่าเทพ ไศลายืนยันว่าไม่ได้ทำ นาถสุดาไม่พอใจ กระชากไศลาขึ้นมาตบฉาดใหญ่
ooooooo
สุทธิพงษ์ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านตามคำชวนของไศลา อรชรพาโยคีศิลาดำมาเพื่อค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ สุทธิพงษ์รู้สึกไม่ไว้ใจ จึงขอร้องอรชรให้เลิกหาเรื่องไศลา เพราะพี่เขาหวังดีกับตน อรชรโกรธขู่จะทำร้ายธิดารัตน์ถ้าเขาไม่ร่วมมือช่วยหากล่องไม้
หลายวันผ่านไป ชูชิตมาที่บ้านดุลยศักดิ์ กลับถูกพวกสมุนจับกุมตัว เพราะนายสั่งว่าเขาหมดประโยชน์แล้ว ชูชิตโวยวาย “อย่าเพิ่งยิงนะ ฉันยังมีประโยชน์ ยังช่วยนายได้อีกหลายเรื่อง”
สมุนเยาะตามคำพูดของเจ้านายว่า คนปัญญาอ่อนอย่างชูชิตจะช่วยอะไรได้อีก ชูชิตยืนยันว่าตนไม่เคยคิดหักหลังนาย ขอคุยกับนาย ว่าแล้วเขาก็เอามือถือกดหาดุลยศักดิ์
“นายครับ นายอย่าฆ่าผมนะครับ ผมไม่เคยคิดหักหลังนายแม้แต่นิดเดียว นายก็รู้”
“คนไม่มีประโยชน์ ฉันไม่จำเป็นต้องเก็บไว้”
“นายอยากได้อะไร ผมทำให้ได้หมดนะ อย่าบอกว่าผมไม่มีประโยชน์”
ดุลยศักดิ์ย้อนถามว่าจะทำอะไรเป็นประโยชน์ได้อีก ชูชิตเสนอจะเอาตัวไศลามามอบให้ ดุลยศักดิ์หัวเราะลั่น “นั่นแกกำลังพูดถึงผู้หญิงที่แกบอกว่ารักอยู่นะ”
“ผมภักดีต่อนายมากกว่าใครทั้งนั้น ผมพาไศลาไปให้นายจัดการได้จริงๆนะ นายเชื่อผม ผมมีประโยชน์ นายอย่าฆ่าผมเลยนะนาย” ชูชิตกลัวตายจนหมดความองอาจ
ดุลยศักดิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ขอคุยกับสมุน ชูชิตส่งมือถือให้ สมุนฟังแล้วรับคำหันมาบอกชูชิตว่านายให้ไปพาไศลามา ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวตาย ชูชิตกลืนน้ำลายเอื๊อก
ในห้องทำงาน ธีรธรเข้ามาเก็บของลงกล่อง จ่านิดถามว่าจะไปนานแค่ไหน ธีรธรส่ายหน้าไม่รู้ จ่านิดรับปากจะดูแลข้อมูลต่างๆไว้ให้ แล้วอดถามว่าเชื่อจริงหรือว่าไศลาหักหลัง ธีรธรปรี๊ดแตก อย่าเอ่ยชื่อเธอให้ได้ยินอีก จ่านิดไม่วายเตือนสติ
“ถ้าไอ้ดุลยศักดิ์มันฉลาดขนาดนั้น การจะทำให้คุณไศลาดูไม่น่าเชื่อถือ อาจจะเป็นหนึ่งในแผนของมันก็ได้นะครับ ผมว่ามันแปลกๆมาตั้งแต่แรก ที่อยู่ๆคุณไศลาก็ขออาสาไปเสี่ยงเป็นสายให้เราแล้วล่ะ บางที...อาจจะเป็นฝ่ายเราเองก็ได้นะ ที่มีหนอนบ่อนไส้”
ธีรธรคิดตามแต่ไม่ออกความเห็น เขาขับรถกลับบ้าน ครุ่นคิดถึงความสุขที่ผ่านมากับไศลา นึกถึงกล่องไม้ที่เธอฝากเขาดูแล เขาสับสนไปหมด เปิดลิ้นชักหน้ารถ โยนกล่องไม้ไว้ในนั้น
ตกดึก ธีรธรนั่งดื่มเหล้าอยู่ระเบียงบ้านของตัวเอง ครุ่นคิดเรื่องของไศลาแต่คิดไม่ตก...ขณะที่นิ่มนวลเริ่มออกอาการผิดปกติใน ร่างกายบางอย่าง เกิดคลื่นไส้อาเจียนจนหวั่นใจ มองไปเห็นธีรธรนั่งดื่มเหล้าอยู่ จึงเกิดความคิดเลวร้ายในหัว
ooooooo
ไศลาพยายามหาทางหนี แต่ทั้งประตูและหน้าต่าง นาถสุดาได้ลงอาคมไว้...นาถสุดาทรมานไศลาทุกวิถีทางให้ยอมรับว่าฆ่าเทพ แต่เธอก็ยืนกรานว่าไม่ได้ฆ่า จนชักลังเลใจ สุดท้ายไศลารับปากว่าจะช่วยชุบชีวิตเทพแต่ไม่รับรองว่าจะสำเร็จ เพราะตนสูญเสียพลังไป
ขณะเดียวกัน นิ่มนวลเห็นธีรธรเมาฟุบหลับ จึงพา มานอนในห้องนอน ถอดเสื้อผ้าเขาออกเพื่อเช็ดตัว แล้วแง้มประตูห้องไว้ จัดแจงนอนกอดเขาอยู่บนเตียง...คืนนั้นโยคีศิลาดำใช้วิชาอาคมเข้ามาลักพาตัว ธิดารัตน์ออกไปจากห้องนอน เพื่อให้อรชรได้บีบบังคับให้สุทธิพงษ์ทำตามคำสั่ง สุทธิพงษ์แขวะ
“ทำไมพี่อรถึงจงเกลียดจงชังพี่ไศนัก พี่ไศไปทำอะไรให้พี่นักหนาเหรอ...แค่พี่ไศสวยกว่า เก่งกว่า ดีกว่าพี่ทุกอย่าง แค่นั้นน่ะเหรอ”
อรชรโกรธ สั่งสุทธิพงษ์ให้ไปเอาตำราจากไศลามาให้ได้ ไม่อย่างนั้นธิดารัตน์จะไม่ปลอดภัย ทำเอาเขาเครียดจัด
วันต่อมา จ่านิดยังคร่ำเคร่งค้นข้อมูลคดีจนพบสิ่งผิดปกติบางอย่าง พอดีผู้การเสริมพงษ์เข้ามาสั่งให้เขาเอาแฟ้มคดีไปเก็บในห้อง จ่านิดเปิดดูเห็นเนื้อหาเปลี่ยนจากที่เขาก๊อบปี้ไว้ยิ่งสงสัย ตัดสินใจค้นประวัติความเป็นมาของผู้การเสริมพงษ์ในห้องเก็บเอกสาร...
ในขณะที่แววสาวใช้บ้านวงทองจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง เปิดประตูมาเจอธีรธรนอนอยู่กับนิ่มนวลก็ตกใจ ร้องเสียงดังลั่นบ้าน ธีรธรตื่นขึ้นมาตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นนิ่มนวลและตัวเองอยู่ในสภาพนี้ เขาถามนิ่มนวลว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกลับย้อนถามว่าเขาจำไม่ได้เลยหรือ
“พี่ธีเมาอยู่ที่ระเบียง นิ่มเป็นห่วงก็เลยพามาที่ห้อง แล้วพี่ก็...” นิ่มนวลสะอึกสะอื้น
“พี่นึกไม่ออกจริงๆ นิ่ม...” ธีรธรกุมขมับเครียดหนัก
วงทองกับกมลาตามมาดูว่าแววร้องกรี๊ดอะไร พอเห็นสภาพทั้งสองก็ตกใจ นิ่มนวลแอบยิ้มอย่างพอใจ กมลาโวยวายเกิดเรื่องแบบนี้ในบ้านได้อย่างไร ทั้งธีรธรและนิ่มนวลลุกขึ้นแต่งตัวตามออกมาคุยกันที่ห้องรับแขก นิ่มนวลออกรับแทนว่าตนผิดเองที่ไม่ระวังตัว ธีรธรยังยืนยันว่าตนจำไม่ได้ วงทองติงลูกชาย เมื่อเกิดเรื่องแล้วก็ต้องรับผิดชอบ กมลาจัดแจงจะหาฤกษ์ยามให้ ธีรธรขอเวลาคิดสักพักเผื่อว่าจะคิดออก นิ่มนวลร้องไห้โฮ
วงทองตัดบทให้กมลาจัดการไปได้เลย ธีรธรเครียดลุกหนีมาอยู่คนเดียว ระบายอารมณ์ทุบโต๊ะโครมๆ
ระหว่างนั้น พันธ์พงษ์เข้ามาถามทุกคนว่าใครเห็นธิดารัตน์บ้าง ทุกคนจึงนึกได้ยังไม่เจอเธอเลย วงทองใจเสียให้แววไปรายงานธีรธร นิ่มนวลเหวอที่ทุกคนไม่สนใจเรื่องตนแล้ว
ด้านจ่านิด ค้นประวัติผู้การเสริมพงษ์ลึกไปจนพบว่า สมัยมัธยมเขาเป็นเพื่อนสนิทกับดุลยศักดิ์ มีภาพถ่ายกอดคอกันในหนังสือรุ่น จ่านิดผงะ ผู้การเสริมพงษ์โผล่มาพอดี จ่านิดรีบปิดคอม ผู้การทำทีไม่สนใจ ชวนเขาไปคุยงานกันที่ร้านอาหารประจำของตน จ่านิดแคลงใจ จึงแอบโทร.หาธีรธร เพื่อบอกว่าตนเจอตอเข้าแล้ว ไม่ทันบอกรายละเอียด ก็ได้ยินเสียงทางบ้านธีรธรวุ่นวายเรื่องธิดารัตน์หายตัวไป ธีรธรวางสาย จ่านิดไม่รู้จะทำอย่างไรจึงส่งข้อมูลเข้าอีเมล์ของธีรธรแทน
ooooooo
จิตของไศลาไปที่กลางป่าท่ามกลางหมอกควัน พบนักพรตเมฆขาวยืนรออยู่ เขาบอกเธอว่าได้เวลาที่ตาที่สามของเธอจะกลับคืนมา ร่างกายเธอจะสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง เธอต้องกลับไปทำสิ่งที่สำคัญ โดยไม่บอกว่าอะไร เพียงย้ำอย่าลืมกฎสองข้อของผู้ได้รับเลือก
ไศลาสะดุ้งตื่นเพราะนาถสุดามาไขกุญแจมือให้และกล่าว “เธอสัญญากับฉันแล้วว่าจะทำให้เทพฟื้น
อย่าผิดคำพูดตัวเอง ฉันให้เวลาถึงคืนนี้ ถ้าฉันไม่เห็นแกโผล่หัวมาล่ะก็ ฉันจะฆ่าน้องสาวปากดีของแกก่อนคนแรกเลย แกก็รู้นี่ว่าฉันทำได้ง่ายๆ”
ไศลารับปาก...ด้านธีรธรกำลังตรวจสอบห้องหลานสาวไม่พบการงัดแงะหรือการต่อสู้แต่อย่างใด
ใจเขาคิดว่าเป็นไศลาที่พาธิดารัตน์ไป...
ในขณะที่จ่านิดนั่งรถที่ผู้การเสริมพงษ์ขับไป
ตามทางอย่างใจคอไม่ดี กระทั่งรถกระตุกดับ ผู้การบอกว่ายางแบน จ่านิดลงมาไม่เห็นว่าแบน ไม่ทันไรผู้การก็ ชักปืนออกมาจ่อหัวเขา
“ยางมันก็ไม่น่าจะแบนอยู่แล้ว นี่ฉันเพิ่งนึกได้ว่า เพิ่งเอารถออกจากศูนย์เมื่อวาน”
“เป็นผู้การจริงๆสินะครับ ผมอุตส่าห์ภาวนาว่าผมจะคิดผิด”
“คนเราน่ะ รู้อะไรมากมันก็ไม่ดี จ่าว่าจริงไหม”
“ผู้การทำได้ยังไง ขึ้นรับโล่ต้านยาเสพติดทุกปี แต่จริงๆแล้วก็...”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเป็นคนง่ายๆ ไม่คิดมาก โลกเราเนี่ยคิดเยอะก็อยู่ยาก ทางเลือกไหนที่ทำง่ายๆก็ทำกันไป”
“ทางเลือกนี้คงจะง่ายที่สุดแล้วสิครับ”
“ฉลาดนี่ จริงๆจ่าน่าจะได้ก้าวหน้าในอาชีพการงานนะ เสียอย่างเดียวรู้มากไปหน่อย” ผู้การเสริมพงษ์จ่อยิงจ่านิดอย่างโหดเหี้ยม แล้วหันกระบอกปืนยิงแขนตัวเองเฉี่ยวๆ ก่อนจะวิทยุเรียกกำลังตำรวจมาช่วยบอกว่าตนกับลูกน้องถูกลอบทำร้าย สายตาเขามองจ่านิดอย่างเฉยเมย
...................................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย
0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.