Aug 19, 2013

กัมพูชา :- คนส่วนใหญ่กลัวการว่างทหารและรถถัง


ธหารของรัฐบาล นาย หุน เซ็น ถูกส่งไปทั่วกรุงพนมเปญและบางจังหวัดของกัมพูชาเรื่อยๆ หลังจากการเลือกตั้ง และผลชั่วคราวของกณะกรรมการ เลือกตั้ง พรรคกู้ภัยแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะยอมรับผล. นี้คือการทำให้คนกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย. การตอบสนองต่อปัญหานี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐได้อ้างว่าการกระทำนี้คือการปกป้องประกันสังคม แต่บางคนก็ยังกังวล หลังจากที่หลายถัง ถูกส่งไปยังกรุงพนมเปญ ประชาชนสว่นใหญ่พูดกันว่า ผลการปฏิบัติงานรู้สึกกลัวมากขึ้น หลังจากกลุ่มทหารเช่นรถถัง ฯลฯ ถูกส่งไปยังกรุงพนมเปญขึ้น พอร์ตสีหนุวิลอิสระ ถนนแห่งชาติ 4 ในตอนเย็นของวัน 15 สิงหาคม มันส่งรถถัง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ภาคประชาสังคมประชาชนและพระสงฆ์รวมตัวกันเพื่อก่อให้กระทรวงพิธีสันติภาพ และความยุติธรรม พนมเปญ เมื่อ 14 สิงหาคม 2013 ธุรกิจสุขภาพเหมืองกล่าวว่า เธอเป็นห่วงความปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูก ๆ ของเธอ เธอหันไปที่รัฐบาลเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม มากกว่าการใช้กำลังทหารเพื่อ bamphit ที่จะขู่คน เมื่อวานนี้เขาหันไปที่ผู้นำทางการเมือง เพื่อแก้ปัญหาโดยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธแรง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมกระทรวงมหาดไทย รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ เจ้าหน้าที่ และกองกำลังติดอาวุธ เพื่อดำเนินการต่อความพยายามที่จะให้บริการการบริหาร และบริการสาธารณะที่ดีกว่าคนอื่น ๆ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติทางการเมือง และเพื่อขจัดความเกียจคร้านแน่นอน เนื้อหาของคำแนะนำ, กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ และกองกำลังติดอาวุธ ยังคงดำเนินนโยบายความปลอดภัย ทั้งหมดที่เก็บรวบรวมไปยังคนแรง เพื่อสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย เสถียรภาพในแต่ละท้องถิ่น.
...................................
รายงานจาก. Camnews

การแขงขันดาราสาวกัมพูชาชี่อว่า"อาณาจักรดารา "ประจำปี 2013วิจารณ์ว่าแขงขันหน้าอก


พนมเพ็ญ: เมื่อวันที่ สิบห้าเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ ที่พ่านมา ได้มีการแข่งขันอาณาจักรดาราแห้งกมพูชาชือว่า" กรรมวิธีอาณาจักรดาราประจำปี2013"ซึ่งมักจะจัดขึ้นทุกๆปีนั้นถูกกลุ่มนักวิจารณ์พูดกันว่าเป็นการแขงขันหน้าอกต่อคนมีระดับที่มาชม.
การจัดกรรมวิธีแขงขังดาราของปี 2013 จัดขึ้นที่ เกาะเพรชเป็น ศูนย์รวมความบันเทิง จัดโดยสถานีโทรทัศน์ CTN และบริษัทSabay เมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคม รางวัลที่มอบให้กับผู้นำ ดาวศิลปิน ศิลปะ ทั้ง 33 ตามลำดับ ในขณะที่นักร้องที่มีชื่อเสียงมากของแต่ละคนนั้น , หลายคนและผู้หญิงเหล่านี้เช่น นาย Preap สุวัฒ, Sokun kanha, เป็นตันนั้น .คือการทำให้อาณาจักรของดาวหายไปข้อมูลเนื้อหา และรสชาติส่วนใหญ่ของ ชั้นในศิลปะภาครัฐสนับสนุน แม้ว่าโปรแกรมที่มีให้ใช้สถานที่ได้อย่างราบรื่น และการกระจายของรางวัล prongopreat ปิดต่อคณะกรรมการประเมินผลและจุดบวกของเอ็มไพร์สตาร์ bangheub พูดว่า การให้คะแนนอาจไม่ถูกต้อง
........................................
 รางานจาก พนมเพ็ญ:

อ่านละครวันนี้เรี่อง นางร้ายสายลับ ตอนที่ 9 วันที่ 20 August 2013



 เวลาเดียวกัน ที่เซฟเฮาส์เดอะซัน ทีมงานกำลังประชุมประมวลภารกิจที่กระบี่กันอย่างเคร่งเครียด ภาพกวินปรากฏบนจอโปรเจกเตอร์กลางห้องประชุม ปรีติคลิกภาพพลางบรรยาย...

“นี่คือนายกวิน กฤษดาอภินันท์ ทายาทเจ้าของสนามกอล์ฟเดอะเคซิตี้...” ภาพเลื่อนไปเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด “ส่วนนี่คือภาพของบุคคลต้องสงสัยที่เข้าไปพบริชาร์ดในคืนนั้น ผมตรวจสอบประวัติดูแล้ว เขาคือนายมงคล ที่ปรึกษาอาวุโสของสนามกอล์ฟเดอะเคซิตี้ครับ”


“และเท่าที่เราตรวจสอบดู ตอนนี้สนามกอล์ฟของนายกวินสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์กอล์ฟจากบริษัทของริชาร์ด แต่ไม่พบว่ามีธุรกิจอื่นๆร่วมกันครับสารวัตร” อัศวินเสริม

“เพราะฉะนั้น จากหลักฐานที่เราได้มา เท่ากับว่าตอนนี้นายมงคลกับนายกวินกลายเป็นผู้ต้องสงสัยรายใหม่ที่เราต้องจับตาดูความเคลื่อนไหว” นฤเบศสรุป จ่ายมเสนอทันทีว่า

“แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีครับสารวัตร หรือว่าจะให้คุณโซ่ตามสืบต่อครับ”
พลอยนิลเห็นรูปสุรีกานต์ประคองเนธานที่แก้วดาราแอบถ่ายและส่งให้หนังสือ พิมพ์ เธอเดือดเป็นฟืนเป็นไฟตามหาสุรีกานต์ พอเจอก็ด่า หาว่าเพื่อนทรยศแย่งกระทั่งผัวเพื่อน

แม้สุรีกานต์จะพยายามชี้แจงอย่างไร พลอยนิลทั้งไม่เชื่อและรับไม่ได้ ประกาศตัดความเป็นเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบปี สุรีกานต์สุดทนกับอารมณ์หึงจนหน้ามืดตามัวของเพื่อน ประกาศตัดขาดความเป็นเพื่อนทั้งน้ำตา

ทันใดนั้นเอง ริชาร์ดโทร.เข้ามือถือ นัดพรุ่งนี้ไปออกรอบกันที่เดอะเคซิตี้ แม้เธอจะเอะใจสงสัยแต่ก็รับนัด

“ครับ...ผมคงรอให้ถึงพรุ่งนี้แทบทุกลมหายใจ” ริชาร์ดปากหวาน แต่แววตาเพชฌฆาต

วางสายจากริชาร์ดแล้ว สุรีกานต์รีบโทร.แจ้งนฤเบศทันทีว่าริชาร์ดนัดพบตนที่สนามกอล์ฟของกวินพรุ่งนี้

“ดีเลย แล้วคุณก็หาทางไปคอนโดของมันต่อเหมือนเดิม เราจะได้หาทางไขรหัสพาสเวิร์ดโน้ตบุ๊กด้วย”

วางสายจากสุรีกานต์แล้ว นฤเบศหันไปประชุมต่อกับทีมเดอะซันท่าทางมุ่งมั่นมาก

ooooooo

รุ่งขึ้น นฤเบศไปที่ร้านเบเกอรี่ของแพรไหม เลือกนั่งโต๊ะมุมติดผนังกระจกที่มองออกไปเห็นสนามกอล์ฟได้กว้างขวาง

แพรไหมดีใจมาก แต่ยังไม่หายงอนเรื่องที่กระบี่ มีถามประชดบ้างเล็กน้อย แต่ความรักความเชื่อถือที่มีต่อนฤเบศเพียงเขาชี้แจงเล็กน้อยเธอก็หายน้อยใจ จัดขนมมาให้ทานอย่างยิ้มแย้มยินดี

สุรีกานต์เดินไปหาริชาร์ดที่กำลังพัตต์กอล์ฟอย่างใจเย็น ลูกกอล์ฟกลิ้งลงหลุมพอดี เธอปรบมือชม ริชาร์ด เข้ามาโอบเอวถามว่า “คุณรู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการตีกอล์ฟ” เธอคาดว่าเป็นไม้กอล์ฟหรือไม่ก็เทคนิคพิเศษ

“สำหรับคนอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับผมเป็นเพราะสิ่งนี้มากกว่า” พลางชูลูกกอล์ฟให้ดู “คุณคงจะแปลกใจ แต่คุณคงไม่รู้หรอกว่า ครอบครัวของผมเคยเปิดร้านเล็กๆ ขายลูกกอล์ฟมาก่อนที่มันจะกลายเป็นธุรกิจใหญ่โตได้ขนาดนี้ ผมเชื่อเสมอว่า ลูกกอล์ฟเป็นสิ่งนำโชคของผม”

ระหว่างนั้นบอดี้การ์ดเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง แล้วริชาร์ดก็บอกสุรีกานต์ว่า ตนจัดอาหารพิเศษไว้ต้อนรับเธอ สุรีกานต์อึกอักก่อนหว่านเสน่ห์อ้อนว่า

“แต่ฉัน...อยากไปทานอาหารสองต่อสองที่คอนโดฯ คุณมากกว่านี่คะ”

ริชาร์ดโอบเอวเธอพาเดินออกไป นฤเบศจับตาดูอยู่รีบขอตัวกับแพรไหมที่กำลังจะบอกความในใจ เธอเลยได้แต่ยิ้มเศร้าๆ มองนฤเบศที่ออกไปอย่างรีบร้อน

เป็นวันที่แก้วดารากับเกี๊ยวกุ้งมาที่สนามกอล์ฟเช่นกัน พอเห็นสุรีกานต์เดินไปกับริชาร์ดแก้วดาราก็สั่งเกี๊ยวกุ้งกลับทันที เธอขับรถตามรถของริชาร์ดไปไม่คลาดสายตา แต่ข้างหลังรถเธอ นฤเบศก็ขับตามมาอย่างเกาะติดเช่นกัน แต่เพราะต่างก็ใจจดจ่ออยู่กับรถของริชาร์ด จึงไม่ได้สังเกตเห็นกัน

แก้วดาราตามไปจนเห็นริชาร์ด โอบเอวสุรีกานต์เดินเข้าคอนโดฯ เธอถ่ายรูปแสยะยิ้มพึมพำ

“สงสัยคงจะทนไฟราคะไม่ไหว งานนี้แกได้กลายเป็นนางร้ายเหม็นโฉ่แน่นังโซ่!”

ฝ่ายนฤเบศ พอตามมาถึงคอนโดฯ ก็แตะหูฟังสายลับสั่งงานทันที

“เดอะซันหนึ่งเรียกทีมเดอะซัน ตอนนี้พลูโตกับ เนปจูนมาถึงคอนโดแล้ว เตรียมปฏิบัติภารกิจด่วน!”

ooooooo

ทันทีที่เข้าห้อง ริชาร์ดก็เข้านัวเนียอย่างหื่น

สุรีกานต์ทั้งต้องป้องกันตัวเนียนๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่สำคัญด้วย เธออ้อนให้เขาไปอาบน้ำก่อน ริชาร์ด ดักคอว่าแล้วอย่าหนีไปแบบคราวก่อน

พอริชาร์ดเข้าห้องน้ำ สุรีกานต์ก็ทำงานแข่งกับเวลา เข้าไปในห้องทำงานของเขาเพื่อไขพาสเวิร์ดให้ได้ เธอพิมพ์อย่างไรก็เข้ารหัสไม่ได้ นฤเบศติดต่อตลอดเวลาบอกให้เธอใจเย็นๆ ลองคิดดูว่า ริชาร์ดเคยพูดอะไรเกี่ยวข้องกับพาสเวิร์ดไว้บ้าง เธอคิดแล้วจำอักษรที่เขาสักไว้ที่ต้นคอได้ว่า Vini Vidi Vici เธอพิมพ์ทันที ปรากฏว่า ใช่!

สุรีกานต์ดีใจมากบอกนฤเบศว่าตนทำสำเร็จแล้ว รีบหยิบเครื่องมือถ่ายโอนข้อมูลขนาดจิ๋วมาเสียบต่อกับโน้ตบุ๊ก โหลดข้อมูลส่งไปให้เครื่องรับสัญญาณในรถตู้สายลับทันที พลันก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อริชาร์ดเข้ามาถามเสียงเหี้ยม

“ทำอะไร!”

ริชาร์ดแสดงความดุร้ายกระชากตัวส่งข้อมูลออก ดึงหูฟังสายลับของเธอปาทิ้ง สุรีกานต์ยืนตะลึง

ที่รถตู้สายลับ สัญญาณการส่งข้อมูลล้มเหลวทันที นฤเบศรีบเรียกเนปจูน แต่ไม่มีเสียงตอบรับเลย เขารู้ถึงสถานการณ์เลวร้าย สั่ง “จ่ากับผู้กองตามผมมา ส่วนหมวดรอสแตนด์บายอยู่ที่นี่” แล้วรีบลงจากรถตู้ไปทางคอนโดฯทันที

ooooooo

สุรีกานต์ถูกริชาร์ดถือเป็นศัตรูคู่อาฆาตในทันที ถามว่าใครใช้ให้เธอปลอมเป็นสายลับมาล้วงความลับตน

สุรีกานต์ยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่องตนทำไปเพราะมีความรู้สึกดีๆกับเขา ริชาร์ดตบหน้าเธอเต็มแรง กระชากเข้าไปด้วยความโกรธแค้น ตะคอกถาม

“แล้วที่แกปลอมตัวไปที่ M club สนามกอล์ฟ งานเลี้ยงบนเรือ แล้วที่สำคัญไอ้นี่” ริชาร์ดชูเครื่องดักฟังให้ดู “ถ้ามันไม่ใช่แกแล้วมันจะเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะในห้องทำงานฉันได้ยังไง...ได้ ฉันจะให้เวลาเธอตัดสินใจว่าจะยอมบอกความจริงรึเปล่าว่าใครใช้ให้เธอมา แต่ระหว่างที่รอ เรามาหาอะไรทำเล่นสนุกๆก่อนก็แล้วกัน”

ริชาร์ดผลักสุรีกานต์ลงบนเตียงปลุกปล้ำอย่างระห่ำด้วยความแค้น

ขณะที่สุรีกานต์กำลังตกอยู่ในภาวะอันตรายนี่เอง นฤเบศก็นำจ่ายมกับอัศวินบุกเข้าไปต่อสู้กับบอดี้การ์ดของริชาร์ด จัดการมันแล้ววิ่งไปเคาะประตูรัวจนริชาร์ดต้องลุกมาเปิด นฤเบศพุ่งเข้าเล่นงานริชาร์ดที่ไม่ทันตั้งตัวจนฟุบแล้วพุ่งเข้าพาสุรีกานต์ หนีออกไป

ริชาร์ดโซเซออกมาบอดี้การ์ดจะเข้ามาพยุง เขาสั่งเหี้ยม

“ไม่ต้อง! ตามมันไป ถ้าจับพวกมันไม่ได้ กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด”

นฤเบศพาสุรีกานต์วิ่งไปที่รถขับออกไป ถูกบอดี้การ์ดยิงเจาะยางจนต้องจอดรถทิ้งแล้วพาเธอวิ่งไปที่ลานตู้คอนเทนเนอร์แถวท่าเรือ

“ฟังนะคุณดารา เดี๋ยวผมจะหาทางล่อพวกมันออกไปเอง ส่วนคุณรีบหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แค่นี้คุณทำได้ใช่ไหม” พลางเอาปืนให้เธอไว้ป้องกันตัว สุรีกานต์บอกว่าตนทำไม่ได้แน่ๆ นฤเบศกุมมือเธอไว้ ให้กำลังใจและเชื่อมั่นว่าเธอต้องทำได้ ย้ำก่อนไปว่า “ผมต้องไปแล้ว คุณแค่ทำตามที่ผมบอกก็พอ”

“เดี๋ยว คุณสารวัตร เอ่อ...คุณระวังตัวด้วยนะ เราต้องรอดกลับไปด้วยกัน”

นฤเบศพยักหน้าแทนคำตอบก่อนผละไป สุรีกานต์มองตาม กำปืนแน่น พยายามรวบรวมกำลังใจเต็มที่

ooooooo

ที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนฤเบศและสุรีกานต์ ต่างต้องต่อสู้กับบอดี้การ์ดของริชาร์ดเพื่อจะฝ่าออกไป

นฤเบศสามารถกำจัดบอดี้การ์ดของริชาร์ดที่รุมเล่นงานตนได้หมด เขาวิ่งย้อนไปช่วยสุรีกานต์กำจัดบอดี้การ์ดแล้วพาวิ่งออกไป แต่ก็ยังถูกบอดี้การ์ดที่เหลือไล่ยิงตามมา

“ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีก” นฤเบศโอบสุรีกานต์ไว้พาหลบกระสุนวิ่งไปจนถึงลานริมน้ำท่าเรือถูกบอดี้การ์ด ของริชาร์ดตีวงล้อมเข้ามา

โชคดี ทีมเดอะซันมาช่วยทัน นฤเบศหันบอกสุรีกานต์ว่า

“ตรงนี้พวกผมจัดการเอง คุณหลบไปรอที่รถก่อน”

“แต่...”

“ไปเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง” นฤเบศเสียงเข้มจนสุรีกานต์จำต้องไป แต่พอไปถึงรถ เธอขับรถซิ่งออกไปอย่างชำนาญแล้ววกปาดเข้ามารับพวกเดอะซันทุกคนขึ้นรถขับออก ไป แม้พวกบอดี้การ์ดจะไล่ตามแต่ไม่ทัน

กลับถึงเซฟเฮาส์ สมาชิกเดอะซันต่างทำแผลให้กันและกัน สุรีกานต์ทำแผลให้นฤเบศ จู่ๆนฤเบศก็แกะมือถือของเธอหักซิมทิ้ง เธอถามว่าหักทำไม!

“ริชาร์ดมันมีเบอร์คุณ ผมกลัวว่าพวกมันดักจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือของคุณ แล้วตามเรามาถึงนี่”

แม้สุรีกานต์จะบ่นว่าทำไมไม่ปรึกษากันก่อน ดีที่ตนมีสองเบอร์ แต่ก็พูดอย่างรู้สึกดีกับเขาว่า

“ยังไงก็ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ ป่านนี้ฉันคงตายไปแล้ว” นฤเบศบอกว่าไม่เป็นไรตนทำเพราะ...

พูดทิ้งไว้แค่นั้น พอเธอถามว่าเพราะอะไร เขากลับบอกว่า เพราะหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตอบโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเธอ

เมื่อสุรีกานต์ทำแผลให้เสร็จก็จะกลับ นฤเบศไม่ยอมให้กลับอ้างว่าเธอยังอยู่ในภาวะอันตราย ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ก่อน เธอห่วงงาน นฤเบศบอกว่าชีวิตของเธอสำคัญกว่า รับปากว่า

“พอจบคดีนี้ คุณจะกลับไปทำงานหนักแค่ไหนก็ตามใจคุณ แต่ตอนนี้คุณต้องเชื่อผม เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง”

เมื่อสุรีกานต์จำนนด้วยเหตุผล นฤเบศจึงให้จ่ายม กลับไปพักผ่อนเสีย สุรีกานต์ก็พูดให้จ่าสบายใจว่าไม่ต้องห่วง ตนจะดูแลทางนี้เอง

ริชาร์ดเจ็บใจที่บอดี้การ์ดจับตัวสุรีกานต์ไม่ได้ โทร.ตามพ่อเลี้ยงกำธรและมงคลมาพบ บอกว่าเรากำลังถูกพวกตำรวจส่งสุรีกานต์มาล้วงข้อมูล

พ่อเลี้ยงสงสัยว่าสุรีกานต์มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร มงคลกลัวว่าถ้าสุรีกานต์เอาเรื่องนี้ไปบอกตำรวจเราจบเห่แน่ พ่อเลี้ยงเสนอให้ปิดปากเลยดีกว่า

“ใจเย็นน่าพ่อเลี้ยง นังงูพิษนั่นเป็นทั้งดาราและก็เป็นสายให้ตำรวจด้วย ถ้าเกิดถูกฆ่าตายขึ้นมาอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ และตำรวจอาจจะสาวมาถึงพวกเราได้ แล้วผมก็เชื่อว่ายังไงตอนนี้มันก็ยังไม่มีหลักฐานที่จะเล่นงานพวกเรา” ริชาร์ดมั่นใจ

ส่วนเรื่องกำหนดส่งของที่มงคลถาม ริชาร์ดบอกว่าคงต้องเร่งให้เร็วกว่าเดิม แล้วหันไปบอกพ่อเลี้ยงกำธร...

“พ่อเลี้ยง ผมอยากให้คุณช่วยจัดการสืบเรื่องนี้ให้ด้วย ว่าทีมตำรวจที่มันตามสืบคดีเรามันเป็นใคร และหาที่ซ่อนของพวกมันให้เร็วที่สุด”

ooooooo

พลอยนิลเห็นรูปสุรีกานต์กอดประคองเนธานที่แก้วดาราแอบถ่าย และส่งไปให้หนังสือพิมพ์ เธอเรียกเนธานไปพบ ตบและด่าเขาสาดเสียเทเสีย ทั้งยังตัดสัมพันธ์กันเด็ดขาดด้วย

ขณะสุรีกานต์ดูแลนฤเบศอยู่ที่เซฟเฮาส์นั้น เห็นทีวีออกข่าวเรื่องเธอตบตีกับพลอยนิลเพราะแย่งผู้ชายคือเนธาน และมีสัมภาษณ์พลอยนิลในเรื่องนี้

“นิลขอยืนยันว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด คนอย่างพลอยนิลไม่ลดตัวไปทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นหรอกค่ะ โดยเฉพาะกับสิ่งที่ไม่ควรจะแลก” เมื่อนักข่าวเอารูปมายืนยัน เธอยอมรับว่ามีปัญหากับเพื่อนรักจริงแต่ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ย้ำว่า “ระหว่างนิลกับโซ่ก็แค่ปัญหาส่วนตัวระหว่างเพื่อน ไม่ใช่เรื่องผู้ชายแน่นอนค่ะ”

เพียงแค่ดูข่าวจบ ก็มีโทร.เข้ามือถือสุรีกานต์ วุ้นกรอบโทร.มาถามด้วยความเป็นห่วงว่าเจ๊ยังโอเคไหม เธอบอกว่าแค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยอยากพักผ่อนและฝากวุ้นกรอบบอกพี่มูโป รดิวเซอร์และอายอดด้วยว่าตนขอลาหยุดสักสองสามวัน

ไม่เพียงวุ้นกรอบโทร.มาเท่านั้น กสิณคุณพ่อของเธอก็โทร.มาจากบ้านด้วยความเป็นห่วง บอกว่าพ่อกับแม่เชื่อใจลูก ทั้งให้กำลังใจ “สู้ๆนะลูก อย่าลืมว่าพ่อกับแม่เป็นกำลังใจให้ลูกโซ่เสมอ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะพ่อ ฝากความคิดถึงทุกคนด้วยนะคะ” แต่พอวางสายจากพ่อเธอก็น้ำตาซึม

นฤเบศมองอยู่ด้วยความเห็นใจ เดินมาหาแล้วหยุดอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจกอดเธอไว้เบาๆ อย่างปลอบใจ น้ำตาเธอค่อยๆ ไหลออกมา ทั้งสองยืนกอดกันนิ่ง ไม่มีคำพูดใดๆ แต่ต่างก็สัมผัสได้ถึงกำลังใจที่ส่งผ่านถึงกัน...

ooooooo

เพื่อสืบให้ได้ว่าทีมตำรวจที่สืบเรื่องของยา เสพติดเป็นใครตามคำสั่งของริชาร์ด พ่อเลี้ยงโทร.คุยกับมังกรให้ช่วยสืบให้ เน้นย้ำว่าโดยเฉพาะดาราที่ชื่อสุรีกานต์เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนั้น

มังกรถามถึงค่าตอบแทน พ่อเลี้ยงบอกว่าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ถ้างานสำเร็จตนจ่ายไม่อั้น

วางสายจากพ่อเลี้ยง มังกรหยิบหนังสือพิมพ์ดูหน้าข่าวบันเทิง เห็นชัดๆว่าผู้จัดการส่วนตัวของสุรีกานต์คือ นฤเบศ! เพียงเท่านั้น มังกรก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทันที เขายิ้มร้ายวางแผนอย่างเร็ว

ไวเท่าความคิด เขาโทร.หาสุรีกานต์นัดให้ออกไปพบตนเดี๋ยวนี้เลย เมื่อถูกปฏิเสธเขาขู่ทันที

“ถ้าคุณไม่ออกมาพบผมตอนนี้รับรองว่าเรื่องที่คุณเป็นสายลับถูกเปิดเผยแน่ ห้ามบอกใครเด็ดขาด ไม่งั้นคุณและเพื่อนร่วมทีมของคุณไม่ปลอดภัยแน่”

ได้ผล! สุรีกานต์รับนัดถามว่าจะให้ไปพบที่ไหน นฤเบศเข้ามาเห็นท่าทางมีพิรุธของเธอถามว่ามีอะไร เธอบอกว่าไม่มี พอดีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นเธอได้โอกาสรีบผละไปเปิดประตูรับจ่ายมที่หิ้ว ของกินและเสบียงมาเต็มสองมือ

เพราะกลัวทีมงานได้รับอันตราย สุรีกานต์แอบหนีไปพบมังกรโดยไม่บอกใคร เธอลืมเอาโทรศัพท์ไป นฤเบศเปิดดูเห็นวอทส์แอพที่กวินส่งมาบอกว่า “ผมเป็นห่วงคุณอยากพบคุณตอนนี้จะได้ไหมครับ” นฤเบศวางโทรศัพท์ลงอย่างปวดใจ พอทีมงานถามว่าสุรีกานต์หายไปไหน นฤเบศบอกว่าเธอคงออกไปหาแฟนกระมัง เดี๋ยวตนจะออกไปตามกลับมาเอง......
....................................................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย  

อ่านละครวันนี้เรี่อง สาปพระเพ็ง วันที่ 20 August 2013



ไม่อยากอยู่แล้วโว้ย...ไอ้บ้านผีสิงเนี่ย ...เพราะแก นังเพชร อยากได้หน้าว่ารักพี่ ทำไม !!! พี่ดำเค้าเป็นผัวแกหรือไง ถึงรักจนวันตายอย่างงี้... อีนังบ้า”

สิริรัตน์จะโผเข้าเล่นงานเพชรดา แต่อภิวัฒน์จับแขนสิริรัตน์เหวี่ยงออกไปก่อน

“เออ ฉันมันต่ำ แล้วไอ้พวกผู้ดีน่ะ อย่ามูมมาม ตะกละตะกลามมากินของต่ำ ๆ ก็แล้วกัน...คอยดูต้องมีคนตาย บ้านนี้มันต้องมีคนตายอีก เพราะผู้หญิงบ้าอย่างแก...นังเพชร”


สิริรัตน์สะบัดหน้าเดินปัดออกไป อภิวัฒน์กับเพชรดาหงุดหงิด

“หยุดความคิดเรื่องพี่ดำถูกฆ่าได้แล้ว...ครอบครัวเรา..รับเลี้ยงลูกเมียคนงานอย่างแกก็บุญกะลาหัวแค่ไหน ยังจะมาทำให้บ้านนี้ลุกเป็นไฟอีก ฉันเตือนแล้วนะ เพชร...ฉันเตือนแล้ว ถ้าแกไม่หยุด ระวังตัวไว้ แกจะได้ตามไปรับใช้พี่ดำ”

พูดจบอภิวัฒน์เดินออกไป เพชรดาตัวสั่น ร้องไห้ที่ถูกรุมประณามจากคนทั้งบ้าน

ไผ่ วิกกี้ พัทธ์ พากันวิเคราะห์ข้อมูลจากการไปสอบปากคำและหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านอภิมุข
“คุณเพชรดากำลังปกปิดอะไรเราอยู่” พัทธ์เอ่ยจริงจัง

“ตามหลักฐานทางการเงิน คุณอภิวัฒน์ น้องชาย มีหนี้ที่เกี่ยวกับธุรกิจมากกว่าร้อยล้าน แต่เมีย คุณมาริษา ก็ยังเป็นลูกค้าประจำร้านเพชร งาน รวมไฮโซเซเลบดัง ๆ เธอไม่เคยพลาด” วิกกี้ให้ข้อมูล

“คุณสิริรัตน์ น้องเมียก็ดูเข้ากับใครไม่ได้ แล้วก็ไม่ชอบหน้าคุณเพชรดามาก ๆ ถึงกับเรียกว่า...นังบ้า...แค่วันแรกก็สนุกแล้วว่ะ พัทธ์ ผู้ต้องสงสัยเพียบ.. แกว่ามั้ย” ไผ่ถามพัทธ์

“เราจะกลับไปที่นั่นอีก จนกว่าจะเอาความจริงมาให้ได้ ว่า..ใครคือคนยิง”

“ผู้กองไผ่คงมั่นใจฝีมือสอบสวนมากนะคะ...เห็นคุยกับน้องเมียคุณอภิวัฒน์ตั้งนาน ได้เรื่องหรือได้เบอร์มาล่ะคะ”

“ทั้งสองอย่างเลยครับ...ปกติของผมอยู่แล้ว สาว ๆ คนไหนน่าค้นหาก็ต้องขอเบอร์ไว้ แต่คนไหน .. มองแล้วชวนวังเวงใจจนอยากบวชหนี...ก็ต้องอยู่ห่าง ๆ...เพื่อความปลอดภัยของชีวิตหนุ่ม” ไผ่โอบไหล่ดึงพัทธ์ให้ห่างวิกกี้ วิกกี้จ้องไผ่อย่างสุดแสนจะเกลียด พอวิวเปิดประตูเข้ามา วิกกี้หันไปดุประชด

“หัวหน้าคุยกันอยู่ ไม่มีมารยาทเลย วิว”

“ขอโทษครับ ผมจะมาเตือนเจ๊วิกกี้ว่า นักศึกษาฝึกงานกำลังจะมารายงานตัว”

รัดเกล้า ยอดชาย มุรธา เข้ามารายงานตัวเพื่อฝึกงาน วิกกี้สังเกตเห็นไผ่เอาแต่ยิ้มมองรัดเกล้า

“รัดเกล้าค่ะ รัดเกล้า ลิขิตศิริ”

“นามสกุลเจ๊วิกกี้” วิวสงสัย

“ใช่ !! น้องสาวฉันเอง”

“ไหนเจ๊เคยบอกว่าเป็นลูกคนเดียว” ดนัยเอ่ยถาม

“ก็ฉันเป็นลูกคนเดียวของแม่ แต่พ่อฉันมีเมียสองคน ใครมีปัญหาอะไรอึดอัดในใจ อยากสอด
รู้สอดเห็นอีกหรือเปล่าคะ” วิกกี้มองเข่นไปที่ไผ่

“พี่น้องคนละแบบกันเลย น้องรัดเกล้าดูเรียบร้อย”

“สนิทเร็วไปมั้ยคะ ผู้กองไผ่ รัดเกล้าไม่มีพี่ชาย เรียกรัดเกล้าเฉย ๆ ก็พอ”

“งั้นผมขอให้รัดเกล้ามาช่วยเรื่องเอกสารคดีส.ส.อภิมุข”

“ไม่ต้อง อรนุช...เอารัดเกล้าไปช่วยเรื่องประสานงาน” วิกกี้ขวางสุดตัว

“มุละคะ มุช่วยงานใครดี...ให้มุช่วยผู้กองพัทธ์ก็ได้” มุรธาหันไปทางพัทธ์

“สำหรับน้อง เดี๋ยวพี่จัดการให้ค่ะ น้องอะไรนะ มุมานะ ใช่มั้ยคะ”

ทุกคนมองวิกกี้ที่ยิ้มหวานผิดปกติ ขณะที่พวกดนัย ศิริธร อรนุช มองและเมาท์ว่ามุรธาจะเจออะไร

“ให้มุเป็นธุรการ” มุรธาถามย้ำ

“ค่ะ น้องมุดูเฟรนด์ลี่ ขี้เมาท์ เฝ้าระวัง ก็คอยรับส่งเอกสาร เจอคนที่มาติดต่อ”

มุรธาไม่พอใจ พอเห็นพัทธ์เดินถือแฟ้มออกมา มุรธาลุกขึ้นเดินปาดหน้าวิกกี้ทันที

“พี่พัทธ์ทานกาแฟมั้ยคะ มุชงกาแฟอร่อยนะคะ อืม..มุขอเรียกพี่พัทธ์ได้มั้ยคะ เรียกผู้กองดูแก่ไป...คุณวิกกี้ให้มุทำงานตำแหน่งแม่บ้านสำนักงานน่ะค่ะ งานจุกจิก คอยดูแลทุกคน มุชอบนะคะ ชอบมากเลย...น้องมุชอบเทคแคร์ทุกคนอยู่แล้วค่ะ” มุรธายั่ววิกกี้ พัทธ์มองวิกกี้ วิกกี้รีบยิ้ม

“เดี๋ยววิกกี้เข้าไปสรุปงานในห้องใช่มั้ยคะ”

“ครับ ผมขอข้อมูลประวัติครอบครัวคุณอภิมุขทุกคนด้วย”

“ได้เลยค่ะ วิกกี้เตรียมไว้หมดแล้ว”

พัทธ์เดินกลับไปที่ห้อง วิกกี้หันไปสั่งมุรธาเสียงดังให้ได้ยินกันทุกคนตรงนั้น

“หนู..ลาเต้คาราเมลของคุณวิกกี้ด้วยนะ อ้อ..แล้วอย่าเรียกพี่เป็นอันขาด เรายังไม่สนิทสนมกันมากถึงขนาดนั้น..มาใหม่หัดมีสัมมาคารวะ รู้จักผู้ใหญ่ผู้น้อย หนูต้องเรียกคุณวิกกี้ทุกครั้งนะคะ”

มุรธายืนนิ่งเหมือนถูกสาป วิกกี้ปรายตา มองวิวแบบไงล่ะ แล้วเดินเชิดเข้าห้องตามพัทธ์ไปอย่างผู้ชนะ...รัดเกล้ากำลังจัดแฟ้มคดีอยู่ หันมาเห็นไผ่ เธอถอยหลังก็ไปติดตู้

“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก รัดเกล้า..ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น ..ไม่นึกเลยว่า คุณจะเป็นน้องเจ๊วิกกี้..ชื่อเพราะจัง รัดเกล้า..รัดเกล้า” ไผ่ก้มมาใกล้......
...........................................
 พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย

อ่านละครวันนี้เรี่อง กุหลาบไฟ ตอนที่ 11 วันที่ 20 august 2013



 “ผมก็ยังไม่แน่ใจครับ ยังไม่อยากพูดไปโดยไม่มีหลักฐาน แล้วผู้กองเห็นแฟ้มคดีของผู้กองบ้างไหมครับ”

ผู้การเสริมพงษ์ชูแฟ้มในมือ และบอกว่าตนต้องการกระจายงานให้คนอื่นไปทำ หวังว่าเขาคงเข้าใจ จ่านิดรับคำไม่กล้าหือ ก้มหน้าเดินออกไป แต่รู้สึกหวั่นใจอย่างประหลาด เขานั่งครุ่นคิด นึกได้ว่าตนได้ก๊อบปี้แฟ้มคดีเอาไว้ในคอม จึงเริ่มค้นหาสิ่งที่ตนสงสัย...


ในขณะที่ไศลาฟื้นขึ้นมาเห็นนาถสุดากำลังป้อนข้าวศพเทพ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเพราะร่างเทพเริ่มเน่าเฟะ...พอนาถสุดาเห็นไศลาฟื้นก็คาดคั้นจะเอาตำราหน้าสุดท้ายจากเธอ นาถสุดาจับไศลามากดหน้าชิดกับซากศพ บังคับให้ขอโทษที่ฆ่าเทพ ไศลายืนยันว่าไม่ได้ทำ นาถสุดาไม่พอใจ กระชากไศลาขึ้นมาตบฉาดใหญ่

ooooooo

สุทธิพงษ์ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านตามคำชวนของไศลา อรชรพาโยคีศิลาดำมาเพื่อค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ สุทธิพงษ์รู้สึกไม่ไว้ใจ จึงขอร้องอรชรให้เลิกหาเรื่องไศลา เพราะพี่เขาหวังดีกับตน อรชรโกรธขู่จะทำร้ายธิดารัตน์ถ้าเขาไม่ร่วมมือช่วยหากล่องไม้
หลายวันผ่านไป ชูชิตมาที่บ้านดุลยศักดิ์ กลับถูกพวกสมุนจับกุมตัว เพราะนายสั่งว่าเขาหมดประโยชน์แล้ว ชูชิตโวยวาย “อย่าเพิ่งยิงนะ ฉันยังมีประโยชน์ ยังช่วยนายได้อีกหลายเรื่อง”

สมุนเยาะตามคำพูดของเจ้านายว่า คนปัญญาอ่อนอย่างชูชิตจะช่วยอะไรได้อีก ชูชิตยืนยันว่าตนไม่เคยคิดหักหลังนาย ขอคุยกับนาย ว่าแล้วเขาก็เอามือถือกดหาดุลยศักดิ์

“นายครับ นายอย่าฆ่าผมนะครับ ผมไม่เคยคิดหักหลังนายแม้แต่นิดเดียว นายก็รู้”

“คนไม่มีประโยชน์ ฉันไม่จำเป็นต้องเก็บไว้”

“นายอยากได้อะไร ผมทำให้ได้หมดนะ อย่าบอกว่าผมไม่มีประโยชน์”

ดุลยศักดิ์ย้อนถามว่าจะทำอะไรเป็นประโยชน์ได้อีก ชูชิตเสนอจะเอาตัวไศลามามอบให้ ดุลยศักดิ์หัวเราะลั่น “นั่นแกกำลังพูดถึงผู้หญิงที่แกบอกว่ารักอยู่นะ”

“ผมภักดีต่อนายมากกว่าใครทั้งนั้น ผมพาไศลาไปให้นายจัดการได้จริงๆนะ นายเชื่อผม ผมมีประโยชน์ นายอย่าฆ่าผมเลยนะนาย” ชูชิตกลัวตายจนหมดความองอาจ

ดุลยศักดิ์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ขอคุยกับสมุน ชูชิตส่งมือถือให้ สมุนฟังแล้วรับคำหันมาบอกชูชิตว่านายให้ไปพาไศลามา ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวตาย ชูชิตกลืนน้ำลายเอื๊อก

ในห้องทำงาน ธีรธรเข้ามาเก็บของลงกล่อง จ่านิดถามว่าจะไปนานแค่ไหน ธีรธรส่ายหน้าไม่รู้ จ่านิดรับปากจะดูแลข้อมูลต่างๆไว้ให้ แล้วอดถามว่าเชื่อจริงหรือว่าไศลาหักหลัง ธีรธรปรี๊ดแตก อย่าเอ่ยชื่อเธอให้ได้ยินอีก จ่านิดไม่วายเตือนสติ

“ถ้าไอ้ดุลยศักดิ์มันฉลาดขนาดนั้น การจะทำให้คุณไศลาดูไม่น่าเชื่อถือ อาจจะเป็นหนึ่งในแผนของมันก็ได้นะครับ ผมว่ามันแปลกๆมาตั้งแต่แรก ที่อยู่ๆคุณไศลาก็ขออาสาไปเสี่ยงเป็นสายให้เราแล้วล่ะ บางที...อาจจะเป็นฝ่ายเราเองก็ได้นะ ที่มีหนอนบ่อนไส้”

ธีรธรคิดตามแต่ไม่ออกความเห็น เขาขับรถกลับบ้าน ครุ่นคิดถึงความสุขที่ผ่านมากับไศลา นึกถึงกล่องไม้ที่เธอฝากเขาดูแล เขาสับสนไปหมด เปิดลิ้นชักหน้ารถ โยนกล่องไม้ไว้ในนั้น

ตกดึก ธีรธรนั่งดื่มเหล้าอยู่ระเบียงบ้านของตัวเอง ครุ่นคิดเรื่องของไศลาแต่คิดไม่ตก...ขณะที่นิ่มนวลเริ่มออกอาการผิดปกติใน ร่างกายบางอย่าง เกิดคลื่นไส้อาเจียนจนหวั่นใจ มองไปเห็นธีรธรนั่งดื่มเหล้าอยู่ จึงเกิดความคิดเลวร้ายในหัว

ooooooo

ไศลาพยายามหาทางหนี แต่ทั้งประตูและหน้าต่าง นาถสุดาได้ลงอาคมไว้...นาถสุดาทรมานไศลาทุกวิถีทางให้ยอมรับว่าฆ่าเทพ แต่เธอก็ยืนกรานว่าไม่ได้ฆ่า จนชักลังเลใจ สุดท้ายไศลารับปากว่าจะช่วยชุบชีวิตเทพแต่ไม่รับรองว่าจะสำเร็จ เพราะตนสูญเสียพลังไป

ขณะเดียวกัน นิ่มนวลเห็นธีรธรเมาฟุบหลับ จึงพา มานอนในห้องนอน ถอดเสื้อผ้าเขาออกเพื่อเช็ดตัว แล้วแง้มประตูห้องไว้ จัดแจงนอนกอดเขาอยู่บนเตียง...คืนนั้นโยคีศิลาดำใช้วิชาอาคมเข้ามาลักพาตัว ธิดารัตน์ออกไปจากห้องนอน เพื่อให้อรชรได้บีบบังคับให้สุทธิพงษ์ทำตามคำสั่ง สุทธิพงษ์แขวะ

“ทำไมพี่อรถึงจงเกลียดจงชังพี่ไศนัก พี่ไศไปทำอะไรให้พี่นักหนาเหรอ...แค่พี่ไศสวยกว่า เก่งกว่า ดีกว่าพี่ทุกอย่าง แค่นั้นน่ะเหรอ”

อรชรโกรธ สั่งสุทธิพงษ์ให้ไปเอาตำราจากไศลามาให้ได้ ไม่อย่างนั้นธิดารัตน์จะไม่ปลอดภัย ทำเอาเขาเครียดจัด

วันต่อมา จ่านิดยังคร่ำเคร่งค้นข้อมูลคดีจนพบสิ่งผิดปกติบางอย่าง พอดีผู้การเสริมพงษ์เข้ามาสั่งให้เขาเอาแฟ้มคดีไปเก็บในห้อง จ่านิดเปิดดูเห็นเนื้อหาเปลี่ยนจากที่เขาก๊อบปี้ไว้ยิ่งสงสัย ตัดสินใจค้นประวัติความเป็นมาของผู้การเสริมพงษ์ในห้องเก็บเอกสาร...

ในขณะที่แววสาวใช้บ้านวงทองจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง เปิดประตูมาเจอธีรธรนอนอยู่กับนิ่มนวลก็ตกใจ ร้องเสียงดังลั่นบ้าน ธีรธรตื่นขึ้นมาตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นนิ่มนวลและตัวเองอยู่ในสภาพนี้ เขาถามนิ่มนวลว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกลับย้อนถามว่าเขาจำไม่ได้เลยหรือ

“พี่ธีเมาอยู่ที่ระเบียง นิ่มเป็นห่วงก็เลยพามาที่ห้อง แล้วพี่ก็...” นิ่มนวลสะอึกสะอื้น

“พี่นึกไม่ออกจริงๆ นิ่ม...” ธีรธรกุมขมับเครียดหนัก

วงทองกับกมลาตามมาดูว่าแววร้องกรี๊ดอะไร พอเห็นสภาพทั้งสองก็ตกใจ นิ่มนวลแอบยิ้มอย่างพอใจ กมลาโวยวายเกิดเรื่องแบบนี้ในบ้านได้อย่างไร ทั้งธีรธรและนิ่มนวลลุกขึ้นแต่งตัวตามออกมาคุยกันที่ห้องรับแขก นิ่มนวลออกรับแทนว่าตนผิดเองที่ไม่ระวังตัว ธีรธรยังยืนยันว่าตนจำไม่ได้ วงทองติงลูกชาย เมื่อเกิดเรื่องแล้วก็ต้องรับผิดชอบ กมลาจัดแจงจะหาฤกษ์ยามให้ ธีรธรขอเวลาคิดสักพักเผื่อว่าจะคิดออก นิ่มนวลร้องไห้โฮ

วงทองตัดบทให้กมลาจัดการไปได้เลย ธีรธรเครียดลุกหนีมาอยู่คนเดียว ระบายอารมณ์ทุบโต๊ะโครมๆ

ระหว่างนั้น พันธ์พงษ์เข้ามาถามทุกคนว่าใครเห็นธิดารัตน์บ้าง ทุกคนจึงนึกได้ยังไม่เจอเธอเลย วงทองใจเสียให้แววไปรายงานธีรธร นิ่มนวลเหวอที่ทุกคนไม่สนใจเรื่องตนแล้ว

ด้านจ่านิด ค้นประวัติผู้การเสริมพงษ์ลึกไปจนพบว่า สมัยมัธยมเขาเป็นเพื่อนสนิทกับดุลยศักดิ์ มีภาพถ่ายกอดคอกันในหนังสือรุ่น จ่านิดผงะ ผู้การเสริมพงษ์โผล่มาพอดี จ่านิดรีบปิดคอม ผู้การทำทีไม่สนใจ ชวนเขาไปคุยงานกันที่ร้านอาหารประจำของตน จ่านิดแคลงใจ จึงแอบโทร.หาธีรธร เพื่อบอกว่าตนเจอตอเข้าแล้ว ไม่ทันบอกรายละเอียด ก็ได้ยินเสียงทางบ้านธีรธรวุ่นวายเรื่องธิดารัตน์หายตัวไป ธีรธรวางสาย จ่านิดไม่รู้จะทำอย่างไรจึงส่งข้อมูลเข้าอีเมล์ของธีรธรแทน

ooooooo

จิตของไศลาไปที่กลางป่าท่ามกลางหมอกควัน พบนักพรตเมฆขาวยืนรออยู่ เขาบอกเธอว่าได้เวลาที่ตาที่สามของเธอจะกลับคืนมา ร่างกายเธอจะสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง เธอต้องกลับไปทำสิ่งที่สำคัญ โดยไม่บอกว่าอะไร เพียงย้ำอย่าลืมกฎสองข้อของผู้ได้รับเลือก

ไศลาสะดุ้งตื่นเพราะนาถสุดามาไขกุญแจมือให้และกล่าว “เธอสัญญากับฉันแล้วว่าจะทำให้เทพฟื้น

อย่าผิดคำพูดตัวเอง ฉันให้เวลาถึงคืนนี้ ถ้าฉันไม่เห็นแกโผล่หัวมาล่ะก็ ฉันจะฆ่าน้องสาวปากดีของแกก่อนคนแรกเลย แกก็รู้นี่ว่าฉันทำได้ง่ายๆ”

ไศลารับปาก...ด้านธีรธรกำลังตรวจสอบห้องหลานสาวไม่พบการงัดแงะหรือการต่อสู้แต่อย่างใด

ใจเขาคิดว่าเป็นไศลาที่พาธิดารัตน์ไป...

ในขณะที่จ่านิดนั่งรถที่ผู้การเสริมพงษ์ขับไป

ตามทางอย่างใจคอไม่ดี กระทั่งรถกระตุกดับ ผู้การบอกว่ายางแบน จ่านิดลงมาไม่เห็นว่าแบน ไม่ทันไรผู้การก็ ชักปืนออกมาจ่อหัวเขา

“ยางมันก็ไม่น่าจะแบนอยู่แล้ว นี่ฉันเพิ่งนึกได้ว่า เพิ่งเอารถออกจากศูนย์เมื่อวาน”

“เป็นผู้การจริงๆสินะครับ ผมอุตส่าห์ภาวนาว่าผมจะคิดผิด”

“คนเราน่ะ รู้อะไรมากมันก็ไม่ดี จ่าว่าจริงไหม”

“ผู้การทำได้ยังไง ขึ้นรับโล่ต้านยาเสพติดทุกปี แต่จริงๆแล้วก็...”

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันเป็นคนง่ายๆ ไม่คิดมาก โลกเราเนี่ยคิดเยอะก็อยู่ยาก ทางเลือกไหนที่ทำง่ายๆก็ทำกันไป”

“ทางเลือกนี้คงจะง่ายที่สุดแล้วสิครับ”

“ฉลาดนี่ จริงๆจ่าน่าจะได้ก้าวหน้าในอาชีพการงานนะ เสียอย่างเดียวรู้มากไปหน่อย” ผู้การเสริมพงษ์จ่อยิงจ่านิดอย่างโหดเหี้ยม แล้วหันกระบอกปืนยิงแขนตัวเองเฉี่ยวๆ ก่อนจะวิทยุเรียกกำลังตำรวจมาช่วยบอกว่าตนกับลูกน้องถูกลอบทำร้าย สายตาเขามองจ่านิดอย่างเฉยเมย
...................................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย   

อ่านละครวันนี้เรี่อง นางร้ายสายลับ ตอนที่ 9 วันที่ 19 August 2013




ในสภาพที่สับสนอลหม่านนี้ ริชาร์ดแสดงความเป็นผู้นำ เขาขึ้นประกาศบนเวทีอย่างหนักแน่นว่า

“ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบนะครับ แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ตอนนี้ผมกำลังจัดการอยู่ อีกสักครู่เหตุการณ์จะกลับเป็นปกติแน่นอนครับ”
แม้แขกที่มาร่วมงานจะยังตกใจแต่ก็สงบลงมาก ริชาร์ดเดินลงมาสมทบกับมงคลด้วยสีหน้าเครียด โกรธแค้น กวินเดินมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“มีคนร้ายแฝงตัวเข้ามาในงาน ไม่มีอะไรหรอก ครับคงเป็นพวกสปายที่แอบปลอมตัวเข้ามาสืบข้อมูลเพื่อบ่อนทำลายบริษัทคู่แข่ง อย่างผมน่ะครับ” พูดแล้วขอตัวไปทางที่บอดี้การ์ดยืนอยู่ ถามว่า “พวกมันหนีไป ได้ยังไงวะ!”

“พวกมันหนีลงเรือเร็วไปครับท่าน หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงด้วย พวกมันอาจจะเป็นแก๊งเดียวกับที่บุกไปที่โกดังของเราก็ได้นะครับ”

“โธ่เว้ย! แล้วมายืนทำซากอะไรตรงนี้ รีบสั่งให้พวกบนฝั่งเอาเรือออกตามจับสิวะ” ริชาร์ดพาลกระแชงไปทั่ว

ที่มุมหนึ่ง จ่ายมและอัศวินแอบสบตากันอย่าง เป็นห่วงนฤเบศกับสุรีกานต์

เป็นเวลาที่นฤเบศขับเรือพุ่งฉิวไปบนผิวน้ำพลางหันมองข้างหลังกลัวว่าพวกริชา ร์ดจะตามมา แต่ไปได้อีกไม่นาน เครื่องก็สะอึก กระตุกและดับในที่สุด นฤเบศบอกสุรีกานต์ว่าน้ำมันหมด ให้เธอไปหาที่ท้ายเรือดูว่ามีหรือเปล่า สุรีกานต์กระฟัดกระเฟียดไปหา ครู่หนึ่งนฤเบศถามว่ามีไหม เธอส่ายหน้าซีดๆ มองหน้ากันเครียด

พวกบนฝั่งได้รับคำสั่งให้ตามกำจัดเรือเร็วก็รีบลงเรือมุ่งไปในท้องทะเล เมื่อเห็นเรือเร็วของนฤเบศลอยลำอยู่ไกลๆ มันแบ่งเป็นสองสายเข้าประกอบ แต่พอไปถึงพบแต่เรือเปล่า มองหาและยิงปืนไปรอบเรือก็ไม่มีสิ่งผิดสังเกต มันจึงชวนกันไปที่เกาะร้าง คาดว่าทั้งสองอาจหนีไปที่นั่นแล้ว

หารู้ไม่! นฤเบศกอดสุรีกานต์ไว้แน่น ดำน้ำอยู่จนลูกน้องของริชาร์ดบ่ายหน้าไปที่เกาะร้างจึงโผล่ขึ้นมา แต่สุรีกานต์หมดสติไปแล้ว นฤเบศพาขึ้นเรือพร่ำเรียกก็ไม่รู้สึกตัว เขาจึงผายปอดจนเธอสำลักน้ำออกมา

ทันทีที่ลืมตาเห็นนฤเบศกำลังจะก้มผายปอดอีก เธอร้องกรี๊ดโวยวายว่าจะจูบตนหรือ ชายหนุ่มดีใจแต่อดแกล้งไม่ได้ ทำท่าจะก้มลงจูบจริงๆ พอเธอโวยวายก็บอกว่าจะผายปอดให้

“อ๊ายยยย...ไม่ต้อง พอแล้วฉันหายแล้ว” ร้องพลางผลักอุตลุด

สุรีกานต์ถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป นฤเบศบอกว่าต้องรอจนกว่าจะมีคนมาช่วย เธอก็โวยวายขึ้นมาอีกว่าจะไม่ยอมอยู่เกาะทั้งคืนกับเขาแบบนี้ ร่ำร้องจะกลับโรงแรม

“คุณคิดอะไรในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ทำไม ชีวิต คุณน่ะมีแต่ความเยอะเกินพอดี คุณเคยผ่อนคลายหรือปล่อยวางอะไรบ้างไหม เอาน่า ถือซะว่ามาปิกนิกไง”

“ฉันไม่มีอารมณ์มาปิกนิกอะไรทั้งนั้น ถ้าคนในกองถ่ายตามหาฉันกับคุณไม่เจอ อะไรจะเกิดขึ้น แค่ฉันเป็นข่าวกับคุณครั้งเดียวประวัติฉันก็เสียหายมากพอแล้วถ้ามีรอบสองละ ก็ ฉันต้องเป็นบ้าแน่”

เป็นตายอย่างไร สุรีกานต์ก็ร่ำร้องจะกลับโรงแรม จนนฤเบศปวดหัวในความเอาแต่ใจของเธอโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงเวลานี้เลย

ooooooo

โชคดีที่มีเรือตกหมึกของลุงชาวประมงคนหนึ่งได้ยินเสียงปืนและเห็นเรือลอย เท้งเต้งอยู่กลางทะเลจึงมาดู นฤเบศปดว่าไม่มีอะไร พวกตน มาเที่ยวกัน เรือเสียเลยกลับฝั่งไม่ได้ ขอติดเรือของลุงไปด้วยได้ไหม

ลุงใจดีไม่มีปัญหา แต่กว่าจะกลับฝั่งต้องรอถึงเช้า ถามว่าจะรอไหวไหม นฤเบศรีบบอกว่าไหว สุรีกานต์ทำท่าจะงอแงเลยถูกดุ “นี่คุณ อย่าเรื่องมากได้ไหม อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่บนเรือลำเล็กๆกลางทะเลมืดๆแบบนี้แหละน่า” เธอเลยเงียบ

คืนนี้ ทั้งสองเลยได้ตกหมึกกับลุงชาวประมง กันอย่างสนุกสนาน ผ่านไปหลายชั่วโมง นฤเบศไปนั่งปิ้งปลาอยู่มุมหัวเรือ ส่วนสุรีกานต์หยิบลูกกอล์ฟของที่ระลึกจากงานมาดู บนลูกกอล์ฟของเธอมีสกรีนชื่อบริษัท R.G.Group มีรหัส 015422 แต่ของนฤเบศไม่มี พอดีนฤเบศเรียกไปกินปลาเผาเธอเลยลุกไป ลืมเรื่องลูกกอล์ฟไปชั่วขณะ

ความหิวทำให้เธอกินปลาเผาอย่างเอร็ดอร่อย กินพลางหยอกล้อบ้างทะเลาะบ้าง จนลุงประมงแซวว่า

“แหม...นี่มันเข้าตำราข้าวใหม่ปลามันจริงๆ”

ทั้งสองปฏิเสธพร้อมกัน ลุงหัวเราะขำๆทำนองว่ายังเขินกันอยู่ ทั้งยังบอกว่าบนดาดฟ้าเรือมีเสื่อ มีหมอนอยู่พร้อม ขึ้นไปนอนคุยกันบนนั้นก็ได้

ขึ้นไปนอนดูดาวบนดาดฟ้า อากาศเย็นลงทุกที สุรีกานต์ขดตัวหนาวๆ นฤเบศจึงถอดเสื้อคลุมของตนคลุมให้ เธอจะดึงออกบอกว่าตนไม่เป็นไร

“คุณอย่าปฏิเสธเลย ขอให้ผมได้ดูแลคุณเป็นการตอบแทน ที่ทำให้คุณต้องมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้บ้างได้ไหม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะทำให้คุณตอนนี้”

สุรีกานต์รู้สึกอบอุ่นในความใส่ใจของเขา ขอบคุณแล้วนอนหันหลังให้เขินๆ นฤเบศล้มตัวลงนอนข้างเธอด้วยความรู้สึกแอบเขินไม่รู้ตัว

ooooooo

จนเช้า เมื่อเรือประมงเข้าฝั่ง นฤเบศและสุรีกานต์ขอบคุณลุงชาวประมงแล้วเดินไปตามชายหาดมุ่งไปยังโรงแรม

กวินไปเคาะประตูเรียกสุรีกานต์แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาเดินไปที่ล็อบบี้โรงแรมเจอแพรไหม เธอทักเขาว่าเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าตาไม่ค่อยสบาย เขาปฏิเสธเศร้าๆ เธอจึงชวนไปเดินเล่นที่ชายหาด

ระหว่างนั้นเอง ทั้งกวินและแพรไหมเห็นนฤเบศกับสุรีกานต์เดินมาด้วยกันอย่างสนิทสนม เธอปวดใจจี๊ดที่เมื่อวานเห็นนฤเบศแว้บๆ ไม่แน่ใจจึงโทร.หาเขา เขาบอกว่าติดงานอยู่กำลังยุ่งไว้วันหลังค่อยคุยกัน แต่เช้านี้เห็นเขาเดินเคียงคู่มากับสุรีกานต์ เธอทนไม่ได้ขอตัวกับกวินกลับที่พัก กวินเองก็เห็นสุรีกานต์กับนฤเบศเช่นกัน เขามองอย่างคาดไม่ถึงที่เธอออกไปเดินกับนฤเบศแต่เช้าเช่นนี้...

ทีมเดอะซันกลับถึงที่พักกันแล้ว ต่างเป็นห่วงนฤเบศกับสุรีกานต์ จ่ายมเสนอให้ออกไปตามกันไหม ก็พอดีมือถืออัศวินดังขึ้น

“ฮัลโหล...สารวัตรเหรอครับ ครับ...ได้ครับ” ฟังปลายสายแล้วอัศวินบอกพรรคพวก “สารวัตรโทร.มาบอกว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้วและสั่งให้พวกเรากลับกรุงเทพฯ ทันที”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างโล่งใจ

เป็นเวลาที่อายอดสั่งกองถ่ายกลับเช่นกัน แก้วดาราเกาะกวินแจ ส่วนสุรีกานต์ขึ้นรถตู้ไปนั่งข้างหลังกับนฤเบศ

ระหว่างนั่งรถ แก้วดารากุมมือและแอบอิง กวินจนหลับไป ส่วนสุรีกานต์ก็หลับพิงไหล่นฤเบศ กวินมองอย่างไม่สบายใจ และรู้สึกถึงความสนิทสนมอย่างมากของทั้งคู่

ooooooo

ริชาร์ดนั่งที่โต๊ะทำงานในคอนโดฯ เขาหัวเสียหนักตบหน้าบอดี้การ์ด ด่าว่าพวกเรามีเป็นฝูงจับแค่สองคนยังทำไม่ได้ บอดี้การ์ดบอกว่าอาจมีคนคอยช่วยอยู่ก็ได้
“รีบเอาเรือเข้าฝั่ง ตามสืบให้เร็วที่สุด ฉันอยากรู้ว่าพวกมันเป็นใครกันแน่”

ริชาร์ดโมโหปัดเอกสารบนโต๊ะหล่นกระจาย หัวหน้าบอดี้การ์ดรีบก้มเก็บเอกสาร เหลือบเห็นเครื่องดักฟังที่ใต้โต๊ะทำงาน ดึงขึ้นมาให้ริชาร์ดดู

“เครื่องดักฟังเหรอ มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

ริชาร์ดนิ่งทบทวนประมวลเหตุการณ์ นับแต่เริ่มสัมพันธ์กับสุรีกานต์วันแรกจนถึงวันที่พาเธอขึ้นมาบนห้องนอน เขาเริ่มสงสัยสุรีกานต์เป็นคนแรก หัวหน้าบอดี้การ์ดเอ่ยขึ้นว่า

“ดูเหมือนว่าเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วนะครับ แต่มีคนตั้งใจปลอมตัวมาสืบความลับของเรา”

ริชาร์ดยิ่งสงสัยในตัวสุรีกานต์ พึมพำชื่อเธอออกมา แววตาร้ายกาจ
..............................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย 

อ่านละครวันนี้เรี่อง สาปพระเพ็ง วันที่ 19 August 2013



 “แต่ถ้าเป็นผม ผมจะใจกว้างรับฟังพวกรุ่นใหม่ไฟแรง ไม่เชื่อสิ่งที่คนรุ่นเก่าคิด ก็เหมือนเราที่ต้องมารื้อคดีที่คนเก่าทำไว้ เพราะเห็นข้อผิดพลาดของมัน”

“ขอบคุณครับ ผู้กองไผ่...ผู้กองได้ใจผมไปเต็มร้อยเลยครับ”

วิกกี้กำลังจะใส่กลับให้ยับกันไปข้างนึง แต่พัทธ์รีบประนีประนอมเกรงเรื่องจะบานปลาย


“วิกกี้ครับ ผมว่าเราเป็นดรีมทีมเลยนะครับ ทุกคนให้ใจกับงานนี้เกินร้อย ช่วยกันคนละไม้คนละมืออย่างงี้ เราปิดคดีนี้ได้เร็วแน่”

พัทธ์ยิ้มอยู่คนเดียวท่ามกลางบรรยากาศอาฆาตของวิกกี้ที่จ้องไผ่กับวิว...เมื่อกลับมาถึงคอนโดฯ ไผ่ก็โวยวายทันทีที่รู้ว่าวิกกี้ร่วมทีมสืบสวนในคดีนี้ด้วย

“ไผ่ เราทำงาน ทำไมแกไม่เอางานเป็นตัวตั้ง แกไปกวนเค้าเพราะอยากยั่วโมโหเค้า”

“ฉันเห็นด้วยกับวิว ยายเจ๊วิกกี้มั่นใจตัวเองเกินไป”
“ถ้าวิกกี้ไม่เก่งจริง เธอคงไม่หาหลักฐานมางัดจนคดีต้องถูกรื้อ ฉันว่าเสือสองตัวอย่างแกกับวิกกี้ ควรจะสงบศึกกันชั่วคราว แล้วก็เอาความเก่งมาช่วยกันหาฆาตกร”

“ฆาตกรตัวจริงมันจะใครที่ไหน ก็ต้องอยู่ในบ้านนั่นแหละ...แกว่าใครจะฝ่าด่าน รปภ. เป็นสิบเข้าไปยิง ส.ส.อภิมุข ได้ ถ้าคนในบ้านไม่รู้เห็นเป็นใจ” ไผ่ที่พูดอย่างมั่นใจ

วันต่อมา ทีมสืบมาหาหลักฐานเพิ่มที่ บ้านของ ส.ส.อภิมุข ทุกคนได้เจอเพชรดา น้องสาวต่างแม่ของผู้ตายที่ดูแลทุกอย่างในบ้าน...เพชรดามองไผ่ และพัทธ์ วิกกี้จึงแนะนำว่าคนทั้งสองถูกส่งมาช่วยคดีนี้

“จะทำได้เหรอคะ ตำรวจชุดก่อนที่ทำคดีนี้ก็ระดับผู้การทั้งนั้น สอบสวนกันเป็นปีก็ยังจับตัวฆาตกรไม่ได้”

ไผ่สีหน้าไม่พอใจชัดเจน อยากจะตอบ แต่พัทธ์สบตาเพื่อนปราม ๆ แล้วตอบเสียเอง

“ถึงต้องอาศัยมุมมองใหม่ ๆ ความคิดนอกกรอบเดิม ๆ มาช่วยรื้อคดีไงครับ ผมจะขอเริ่มจากสอบปากคำทุกคนในบ้าน...อีกครั้ง”

“สอบไปเป็นร้อย ๆ รอบ ผมก็ตอบเหมือนเดิมครับ ว่าพี่ชายผมยิงตัวตาย ผม...อภิวัฒน์ เจ้า ของบ้านหลังนี้”

ทุกคนหันไปมองเห็นอภิวัฒน์เดินมา ท่าทางภูมิฐาน สีหน้าสบาย ๆ

“ผมไม่เข้าใจว่าพวกคุณไปเชื่อยายเพชรทำไม...แกน่ะเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน แกคิดว่าคดีนี้ต้องมีฆาตกรเหรอ ใคร...ฉันล่ะสิที่วางแผน ลงมือฆ่าพี่ชายตัวเอง”

“อาจจะไม่ใช่คุณก็ได้นี่ครับ” พัทธ์เอ่ยขึ้น

“เพราะบ้านนี้ก็ยังมีคนอื่น ๆ อยู่ด้วย” ไผ่พูดเน้นคำอย่างจงใจ

พัทธ์เริ่มสอบปากคำอภิวัฒน์ และมาริษา ภรรยาสาวสวยของอภิวัฒน์

“ฉันเคยให้การไปแล้วว่า ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังโน้น แล้วฉันก็วิ่งไปพร้อมคุณอภิวัฒน์ สามี...ไปถึงก็เห็นศพคุณอภิมุข”

“คุณได้ยินเสียงปืนตอนอยู่ตรงไหนครับ” พัทธ์ซัก

“ห้องนอนค่ะ ฉันหลับอยู่”

“คุณอภิวัฒน์เคยให้การว่า เข้าไปปลุกคุณในห้องนอน ทันทีที่ได้ยินเสียงปืน แสดงว่าตอนนั้นคุณตื่นแล้ว ตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงปืน”

“ค่ะ ก็ตื่น พอดีกับที่คุณอภิวัฒน์เข้ามาบอก”

“ตามเวลาที่แพทย์ได้ชันสูตรศพ คาดว่าคุณอภิมุขตายเวลา...ตีสาม” วิกกี้เสริมข้อมูล

“คุณอภิวัฒน์ทำอะไรอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียวครับ...ตอนตีสาม”

“อ่านหนังสือ” อภิวัฒน์บอกเสียงห้วน ๆ

“คุณอภิวัฒน์ชอบอ่านหนังสือคนเดียว เหรอคะ คุณมาริษา” วิกกี้ซักมาริษา

มาริษามองอภิวัฒน์ ยังไม่ทันตอบ อภิวัฒน์หัวเราะขึ้น

“นี่คุณคิดว่าผมวิ่งไปยิงพี่ชาย แล้วก็วิ่งกลับมาปลุกเมีย แล้วก็วิ่งกลับไปยืนมองศพพี่ชาย”

“ยังไม่มีใครสรุปอย่างนั้นนะคะ แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ ตรงที่ว่าไม่มีการวิ่งกลับไปกลับมา”

“ระวังหน่อย ผมฟ้องคุณได้ ถ้าคุณพูดมั่วว่าผมเป็นคนยิงพี่ดำ” อภิวัฒน์ขู่

“คุณวิกกี้เธอกำลังจะบอกว่า...เราต้องการพยานยืนยันว่า คุณสองคนอยู่ในบ้านหลังนี้ จริง ๆ ตอนที่คุณอภิมุขถูกยิง พอจะมีใครยืนยันที่อยู่ของคุณได้มั้ยครับ คนที่ไม่ใช่คุณสองคน...ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน”

อภิวัฒน์มองพัทธ์กับวิกกี้อย่างไม่พอใจ...ด้านไผ่เดินสำรวจบริเวณบ้าน ส.ส.อภิมุข สิริรัตน์ หรือแก้ว น้องเมียคนสวยของอภิวัฒน์

“รื้อคดีขึ้นมาทำไม เดือดร้อนกันไปหมด คุณเป็นตำรวจชุดที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ มาคอยถามโน่นถามนี่ ตรวจบ้านนี้ทุกซอกทุกมุม น่าเบื่อ”

“พวกผมทำตามหน้าที่ คุณสิริรัตน์อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับ”

“สิริรัตน์ก็คงไม่เบื่อเท่าไหร่ ถ้ามีตำรวจ หล่อ ๆ ฉลาด ๆ อย่างคุณมาบ่อย ๆ”

สิริรัตน์โปรยยิ้มหวานให้ไผ่ ไผ่ยิ้ม ๆ ตอบ

“หรือถ้าเบื่อมาก ๆ ทำไมคุณไม่ย้ายออกไปล่ะครับ”

“ก็สิริรัตน์เป็นน้องเมียพี่ดำนี่คะ น้องเมียที่ต้องทนอยู่ในบ้านบ้า ๆ นี่ ...บ้านที่มีแต่คนตาย ตายมันตั้งแต่รุ่นพ่อยันลูก...แถมยังมี...คนบ้า ๆ ...นังบ้านั่น”

ไผ่หันไปมองเห็นเพชรดาที่จ้องมองอยู่ แต่สิริรัตน์ไม่เห็น เธอยิ้มหวาน มองตาเยิ้ม คำพูดเชิญชวน

“ผู้กองว่ามั้ย...แบบสิริรัตน์...ยังสาวยังสวย ถ้ามีที่ไป...สิริรัตน์ก็ต้องเลือกอะไร ๆ ที่ดูดี...มีอนาคต”

พัทธ์กับวิกกี้ยืนรอจะสอบปากคำเพชรดา ได้ยินเสียงดังตึงตังจากชั้นบน พัทธ์ถามว่าใครอยู่ข้างบน เพชรดาบอกไม่มี

“แต่เสียงนั่น เหมือนคนวิ่งอยู่ชั้นบน” วิกกี้ยืนยัน

“ไม่มี เชิญพวกคุณกลับได้แล้ว”

เสียงตึงตังเงียบไป พัทธ์ วิกกี้สบตากัน แล้วมองเพชรดาเขม็ง...

ตอนที่ 3

หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนออกไปแล้ว อภิวัฒน์ มาริษา และ สิริรัตน์ ก็หันมารุมเล่นงานเพชรดาที่รื้อคดีขึ้น

“เพราะแกคนเดียว นังเพชร บ้านนี้ลุกเป็นไฟเพราะนังบ้าอย่างแก”

อภิวัฒน์กราดเกรี้ยวเข้ากระชากแขนเพชรดา

“แกยังดื้อด้านคิดว่าฉันยิงพี่ดำใช่มั้ย เพชร ...ถึงไม่ยอมจบเรื่องนี้”

“เพชรไม่ได้โทษใคร เพชรอยากให้จับตัวคนฆ่าพี่ดำจริง ๆ ได้สักที”

“ก็ฉันพูดอยู่นี่ไง...ตำรวจเค้าก็สรุปไปแล้วว่าพี่ดำฆ่าตัวตาย แกหูแตกหรือไง เพชร...จงรักภักดีอะไรนักหนาหรือแกอยากตายตามพี่ดำ”

อภิวัฒน์ระเบิดโทสะ เหวี่ยงเพชรดากลิ้งไปกับพื้น สิริรัตน์หัวเราะสะใจ

“ตายไปเร็ว ๆ ก็ดีนะ เพชร...พ่อก็ตายหาศพไม่เจอมาแล้วคนนึง แล้วก็มาลูกชาย...ทีนี้ก็คงถึงคราวลูกสาวนอกไส้”

“สิริรัตน์ !!! อย่าลามปามพ่อแม่ฉัน” อภิวัฒน์ปรามสิริรัตน์เสียงดัง

“ก็อยากจะฟังต่อนะ ประวัติครอบครัวเศรษฐีที่ไต่เต้ามาจากยาจก หาเช้ากินค่ำ แต่พอดีฉันมีนัดกับร้านทำเล็บ”

“มาริษา จะพูดอะไรก็ให้เห็นแก่หน้าผัวเธอมั่ง” อภิวัฒน์ไม่พอใจ

“ฉันเลิกนับว่าคุณเป็นสามีมาตั้งนานแล้ว จำหน่อยสิ...อภิวัฒน์ ที่ต้องทนอยู่...ทนรับรู้เรื่องประพฤติบาปในบ้านหลังนี้ เพราะสินสมรสที่ฉันควรจะได้หลังเปิดพินัยกรรม รู้แล้วก็ควรตอบแทนความดีของฉันที่อยู่เป็นเกียรติ ยกระดับให้ตระกูลพ่อค้าของคุณมาตั้งหลายปี...เซ็นเช็คไว้ให้ฉันด้วย ...ห้าล้าน”

มาริษาเหลือบมองอภิวัฒน์เหยียดยิ้ม แล้วเดินออกไป

“ห้าล้าน โถ..นังไฮโซ ค่าสึกหรอของแก น่ะ ห้าพันก็พอแล้ว” สิริรัตน์ไม่พอใจ

“สิริรัตน์ หุบปาก รู้ฐานะตัวเองซะบ้าง !!” อภิวัฒน์ปราม

“ทำไม ทำไม...อีสิริรัตน์มันไม่ใช่...” สิริรัตน์โวยวาย

อภิวัฒน์จ้อง สิริรัตน์จะพูดว่าเมียออกมา เห็นสายตาดุของอภิวัฒน์

ไม่อยากอยู่แล้วโว้ย...ไอ้บ้านผีสิงเนี่ย ...เพราะแก นังเพชร อยากได้หน้าว่ารักพี่ ทำไม !!! พี่ดำเค้าเป็นผัวแกหรือไง ถึงรักจนวันตายอย่างงี้... อีนังบ้า”
....................................................
พิมพ์จากหนังสือ ประโลมโลกละครไทย